3. ตลาดยา - ตอนที่ 6

ตลาดยา

สำหรับผู้จำหน่ายยาแผนปัจจุบัน (Modern medicine) มีแนวโน้มที่จะเห็นรายได้เติบโตต่อไป เนื่องจาก

  • ความต้องการยาที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่จะยังมีอยู่ โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ 1.16 รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ประจำปี
  • การผ่อนคลายเกณฑ์ความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับมาใกล้เคียงระดับปกติ ส่งผลให้ผู้ป่วยกลับมาใช้บริการในโรงพยาบาลเหมือนเดิม เทียบกับก่อนช่วง COVID-19
  • ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อ (Non-communicable disease: NCD) เรื้อรัง ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรม (Behavior) การบริโภคอาหาร
  • การเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขผ่านระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal coverage: UC) ของภาครัฐ ส่งผลดีต่อผู้ผลิตที่จำหน่ายยาผ่านโรงพยาบาล ทั้งยาต้นตำรับ (Original) และยาชื่อสามัญ (Generic)
  • ผู้จำหน่ายยายังมีโอกาสเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย (Channel of distribution) ผ่านร้านขายยา (Pharmacy) และขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน (ASEAN) ซึ่งยังมีความต้องการยาและวัคซีนอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจร้านค้าปลีก/ร้านขายยาทั่วไปที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว (Stand-alone) ได้รับกดดันจากการขยายสาขา (Chain store) ต่อเนื่องของร้านขายยารายใหญ่ เช่น ร้านขายยา Fascino ขยายสาขาในรูปแบบสัมปทาน (Franchise) ได้ครบ 200 สาขา ในปี พ.ศ. 2565 จาก 105 สาขา ในปี พ.ศ. 2563  

ส่วน Save Drug (ในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ: BDMS) มีแผนขยายสาขาต่อเนื่องทุกปี จากปัจจุบันที่มีมากกว่า 80 สาขาทั่วประเทศ โดยเป็นผู้จำหน่ายยาทุกชนิดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีคำแนะนำจากเภสัชกร (Pharmacist) ที่มีความรู้เฉพาะทางและเชี่ยวชาญในเรื่องยา รวมทั้งอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่มีให้เลือกหลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นผู้จำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์, เครื่องวัดความดัน, และเครื่องวัดคลื่นหัวใจ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ประทินผิวพรรณ และเวชสำอาง อีกด้วย

ส่วน ร้านขายยาเพรียวฟาร์มาซี (ในเครือ Big C) ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 7 แห่งในปี พ.ศ. 2565 จาก 146 สาขา ในปี พ.ศ. 2564 นอกจากยาชุดสามัญประจำบ้าน, พลาสเตอร์ยาบรรเทาปวด, วิตามินเด็ก, อาหารเสริมเพื่อลดน้ำหนักและเพื่อความงาม แล้วยังจำหน่ายชุดตรวจ ATK (= Antigen test kit) และผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิว เช่น ครีมบำรุงผิว, ครีมกันแดด, และโฟมล้างหน้า

ร้านขายยาของร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น Discount Store และ Super-market ก็ขยายพื้นที่ (เปิดสาขารวมกันเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 50 ร้าน) และร้านสะดวกซื้อ (เช่น 7-Eleven ก็มีแผนเปิดสาขาปีละ 700 สาขา) ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ส่วนร้านค้าส่ง (Whole-sale) เภสัชภัณฑ์ ก็เริ่มหันมาทำตลาดร้านค้าปลีก (Retail) มากขึ้น และเพิ่มช่องทางการขายและโฆษณาสินค้าที่ผ่านสื่อออนไลน์ (เฉพาะยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ [Prescription] เท่านั้น) ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น จึงค่อนข้างได้เปรียบด้านต้นทุนการจัดซื้อยา เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจร้านค้าปลีก/ร้านขายยาทั่วไปที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว

แหล่งข้อมูล

  1. https://workpointtoday.com/medicine-industry/ [2023, May 7].
  2. https://www.fascino.co.th/ [2023, May 7].
  3. https://www.savedrug.co.th/home/ [2023, May 7].
  4. https://www.bigc.co.th/category/pure-pharmacy [2023, May 7].