2. ตลาดผู้สูงอายุ – ตอนที่ 19
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 4 พฤศจิกายน 2566
- Tweet

การแพร่ระบาดไปทั่วโลก (Pandemic) ของไวรัส COVID-19 เป็นตัวเร่งให้ผู้สูงอายุ (Geriatric) หันมาใช้เทคโนโลยีในการดูแลสุขภาพ (Health-care technology) มากขึ้นในประเทศที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นอกจากจะมีความต้องการบริการด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้สูงอายุแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันคือการขาดแคลน (Shortage) ของบุคลากรด้านสาธารณสุข
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แพทย์, พยาบาล, หรือเจ้าหน้าที่ที่ช่วยดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ทำให้การดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมือหรือเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อช่วยหรือทดแทนเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ทางไกล (Tele-medicine), บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ (On-line consulting), รวมถึงการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ (Digital device) เพื่อดูแลผู้สูงอายุ
เท่าที่ผ่านมา ผู้สูงอายุบางส่วนยังมีปัญหาในการเริ่มใช้เทคโนโลยี เพราะไม่คุ้นเคย หรือไม่เข้าใจ แต่การแพร่ระบาดของ COVID-19 และการปิดพื้นที่ (Lock-down) ในหลายแห่ง ได้เร่งให้เกิดการพัฒนา “เวทีพื้นฐาน” (Platform) หรือเครื่องมือต่างๆ เพิ่มขึ้น ในการช่วยเหลือ (Assist) และดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง (High risk) ต่อการติดเชื้อ COVID-19
ผู้สูงอายุจำต้องหลีกเลี่ยงการออกนอกบริเวณบ้าน หรือการไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น และทำให้ผู้สูงอายุจำนวนมาก หันมาสนใจใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ตัวอย่างในกรณีของสหรัฐอเมริกา มีการพัฒนา Platform ที่ชื่อ “Zoomers to Boomers” โดยผู้สูงอายุหรือผู้มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่องและเสี่ยงติดเชื้อ สามารถสั่งซื้ออาหารหรือสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันได้
กล่าวคือ มีอาสาสมัคร (Volunteer) วัยหนุ่มสาวช่วยไปซื้อและนำไปส่งให้ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application: App) สำหรับผู้สูงอายุ ในด้านสุขภาพ และด้านอื่นๆ ควรออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย (User-friendly) และไม่ซับซ้อน (Uncomplicated)
ตัวอย่างเช่น Taobao ได้พัฒนา App. ของตนให้ผู้สูงอายุใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยให้ ผู้ใช้สามารถเพิ่มขนาดของตัวอักษรและรูปภาพได้ รวมทั้งทำทางลัด (Shortcut) สำหรับการทำงาน (Function) ที่ผู้สูงอายุมักใช้บ่อยๆ หรือ การที่ผู้สูงอายุสามารถติดต่อกับสมาชิกในครอบครัวของตนเองได้ เพียงแค่คลิกที่รูปของผู้ที่ต้องการคุยด้วย
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) พบว่าผู้สูงอายุส่วนมากอาศัยอยู่ในทวีปเอเชีย (57.8% ของจำนวนผู้สูงอายุทั่วโลก [Global elderly) รองลงมา คือ ยุโรป (18.3% ของจำนวนผู้สูงอายุทั่วโลก) โดยประเทศที่มีจำาวนผู้สูงอายุมากที่สุด คือ จีน 249.8 ล้านคน (23.8% ของจำนวนผู้สูงอายุทั่วโลก) รองลงมา คือ อินเดีย และสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในแง่สัดส่วน (Proportion) ของผู้สูงอายุในแต่ละประเทศร่วมด้วย พบว่าหลายประเทศยังมีสัดส่วนผู้สูงอายุไม่มากนัก โดยเฉพาะอินเดีย ที่แม้มีประชากรสูงอายุเกือบ 140 ล้านคน แต่คิดเป็นสัดส่วนเพียง 10.1% ของประชากรทั้งประเทศ (Country population) ในขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ของ อินเดีย (54.3%) มีอายุไม่เกิน 30 ปี
เช่นเดียวกับอินโดนีเซีย และบราซิล ซึ่งมีสัดส่วนประชากรสูงอายุต่อประชากรของแต่ละประเทศเพียง 10.1% และ 14.0% ตามลำดับ ส่วนประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุสูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก ด้วยจำนวน 13.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 19.2% ของประชากรทั้งประเทศ
แหล่งข้อมูล –
- https://kmc.exim.go.th/detail/20210121152800/20210322110347 [2023, November 3].
- Aging-Market_SME-Treasure_2018.pdf [2023, November 3].