10. ตลาดประกันสุขภาพ – ตอนที่ 53
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 18 มีนาคม 2568
- Tweet
ปัจจัยท้าทายและการปรับตัวในปี พ.ศ. 2568
1. ปัจจัยท้าทาย
เศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอน (Uncertain) และการฟื้นตัว (Recovery) ของเศรษฐกิจยังไม่กระจายตัวเท่าที่ควร จะ กระทบกำลังซื้อ (Purchasing power) ของลูกค้าวัยแรงงาน (Workforce) ซึ่งมีอายุระหว่าง 25 ปี ถึง 70 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้ปานกลาง (Middle income earners)
กลุ่มดังกล่าว เป็นผู้มีรายได้ต่อเดือนต่ำว่า 30,000 บาท และต่ำกว่า 50,000 บาท ตามฐานข้อมูลประชากร (Population) ประจำปี พ.ศ. 2564 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่กว่า 9 และ 2.6 ล้านคนตามลำดับ
การปรับตัวของบริษัทประกัน
- นำเสนอ (Introduce) แบบประกันที่มีระยะเวลาการชำระเบี้ยนานขึ้น เช่น แบบตลอดชีพ (Life-long) หรือแบบมรดก (Inherit) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับวงเงินคุ้มครอง (Coverage) สูง ขณะที่บริษัทรับความเสี่ยงด้านการประกันภัย (Insurance risk) เป็นหลัก
- นำสนอแบบประกันที่มีทุนประกัน (Sum assured) เล็กลง เพื่อเป็นทางเลือก (Alternative) สำหรับลูกค้า โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยซื้อประกันมาก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคย (Familiarity) ในตัวผลิตภัณฑ์ประกัน และลดความเสี่ยง (Risk reduction) จากการเวนคืน (Surrender) หรือยกเลิก (Cancel) กรมธรรม์ก่อนกำหนด (Premature) อัน อาจทำให้ลูกค้าได้รับเงินคืนน้อยกว่าที่ชำระและมีทัศนคติ (Attitude) ที่ไม่ดีต่อการทำประกัน
2. ปัจจัยท้าทาย
อัตราดอกเบี้ยของนโยบายไทย ได้ผ่านจุดสูงสุด (Maximum) และมีโอกาสขยับลง (Downward) สอดคล้องกับทิศทาง (Direction ของดอกเบี้ย (Interest) ในต่างประเทศ ซึ่งจะกระทบ (Affect) ต่อรายได้จากการลงทุน (Investment) ซึ่งมีแนวโน้ม (Trend) ลดลงตามดอกเบี้ย และอาจส่งผลต่อกำไรสะสม (Retained earnings) และอัตราการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Risk-based capital: RBC) ให้ปรับลดลง
การปรับตัวของบริษัทประกัน
- ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์กลุ่มคุณค่าสูง (High value) ที่มีลักษณะให้ความคุ้มครองภัยสูง ร่วมกับการปรับลดผลิตภัณฑ์กลุ่มสะสมทรัพย์ (Endowment) ที่มีลักษณะรับรองผลตอบแทน (Return) คล้ายดอกเบี้ย
แหล่งข้อมูล –
