12. ตลาดคลินิกเสริมความงาม-ชะลอวัย - ตอนที่ 1

ตลาดคลินิกเสริมความงาม-ชะลอวัย

ความสวยความงามในยุคปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความสำคัญและการเติบโตมากขึ้น เนื่องมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสื่อสังคม (Social media) ในลักษณะของการเชื่อมต่อถึงกันเป็นเครือข่าย (Net-wok) ส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ กับโลกภายนอกมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ค่านิยม (Value) และความเชื่อ (Belief) ว่า การมีผิวอ่อนวัย, ใบหน้าดี, โหงเฮงดี ฯลฯ ก็ย่อมสร้างโอกาสงดงามให้ชีวิตที่ทำงานและที่บ้าน ทั้งหมดนี้ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ (Confidence) และเสริมสร้างบุคลิกภาพ (Personality) ให้แก่ตนเอง อีกทั้งการรับวัฒนธรรม, ความสวยงามของหน้าตา, และผิวพรรณจากต่างประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศเกาหลีที่ส่งความนิยมชมชอบ (Popularity) ความสวยงามของวัยรุ่น (Teen-agers) ผ่านศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง, นักร้องเพลง, หรือนักเต้นรำ โดยใช้ภาพลักษณ์เป็นจุดขาย (Soft power) ของประเทศ ทำให้ค่านิยมด้านความงามยิ่งทวีคูณขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน การใช้เพียงเครื่องสำอางและครีมบำรุง ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทันที ที่ต้องการความสวยอย่างเร่งด่วน

ในยุคแรกของการให้บริการของธุรกิจความงาม ส่วนใหญ่จะให้บริการในรูปแบบของคลินิกเพื่อรักษาปัญหาผิว เช่น สิว (Acne), ผดผื่น (Rash), ฝ้า (Freckle) และมีแพทย์ประจำคลินิกเป็นผู้ตรวจรักษาโดยการรักษา จะมีตั้งแต่การทำความสะอาดผิวหน้า, บำรุงผิว, และให้ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยที่เกิดปัญหาและรักษาด้วยยาฉีด, ยาทา, และยากิน จนปัจจุบันธุรกิจความงามได้ขยายขอบเขตการ ให้บริการโดยวิวัฒนาเป็นคลินิกเสริมความงาม (Aesthetics) ครบวงจร เพื่อรองรับความต้องการเฉพาะเจาะจงของลูกค้า

พฤติกรรม (Behavior) ที่ตระหนักในความสวยงามดังกล่าว ส่งผลให้คลินิกเสริมความงามเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน และมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง 15 ถึง 20% ทุกปี ในปี พ.ศ. 2562 ตลาดคลินิกดังกล่าว [ซึ่งไม่รวมโรงพยาบาลและหรือคลินิกเวชกรรมทั่วไป, โรงพยาบาลหรือคลินิกศัลยกรรม, และสถานลดน้ำหนัก (Weight loss)] มีสัดส่วนมูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านบาท

แม้ว่าในปี พ.ศ. 2563 วิกฤติเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดไปทั่วโลก (Pandemic) ของไวรัสโควิด 19 จะทำให้หลายอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก (Disruption) แต่หลังจากมีการผ่อนปรนมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้คลินิกเสริมความงามกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ตลาดความงามโดยเฉพาะผิวหนัง ได้ฟื้นตัวกลับมาถึง 80 ถึง 90%

ตัวเลขนี้ สอดคล้องภาพรวมธุรกิจสุขภาพและความงามในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและเติบโตมากกว่า 100% ปรากฏการณ์นี้ สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา (Recession), ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation), หรือปัญหาทางการเมือง (Political)

เหตุผลก็คือ คนส่วนใหญ่ต้องการดูแลตัวเองให้ดีอยู่เสมอ ทัศคติ (Attitude) ต่อความสวยความงามทำให้โอกาส (Opportunity) เปิดกว้างขึ้น ซึ่งขยายการครอบคลุมไปถึงกลุ่มเด็กและกลุ่มผู้ชาย นอกเหนือจากสาวๆ “วัยใส” การเติบโตที่สวนกระแสเศรษฐกิจและสังคมนี้ จึงเป็นที่มาของธุรกิจคลินิกเสริมความงามเพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้บริการและวัยทำงานโดยเฉพาะ เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม (Appropriately) และอย่างได้ประสิทธิผล (Effectively)

แหล่งข้อมูล

  1. https://archive.cm.mahidol.ac.th/bitstream/123456789/4256/1/TP%20050%202564.pdf [2023, March 31].
  2. https://www.bangkokbiznews.com/pr/detail/71658  [2023, March 31].