ดารุนาเวียร์ (Darunavir)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 14 กรกฎาคม 2559
- Tweet
- บทนำ
- ดารุนาเวียร์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ดารุนาเวียร์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ดารุนาเวียร์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ดารุนาเวียร์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ดารุนาเวียร์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ดารุนาเวียร์อย่างไร?
- ดารุนาเวียร์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาดารุนาเวียร์อย่างไร?
- ดารุนาเวียร์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาต้านไวรัสพีไอ (PIs: Protease inhibitors)
- ยาต้านไวรัส (Antiviral drugs)
- เอดส์ (AIDS)
- เอชไอวี: โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV: HIV infection)
- ริโทนาเวียร์ (Ritonavir)
- สะตีเวนส์จอห์นสัน (Stevens-Johnson syndrome)
- กล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis)
บทนำ
ยาดารุนาเวียร์ (Darunavir หรือชื่อเมื่อเริ่มผลิตคือ TMC114) เป็นยาต้านไวรัสในกลุ่มโปรติเอส อินฮิบิเตอร์ (Protease inhibitor ย่อว่า PI) ทางคลินิกนำมาใช้บำบัดรักษาอาการผู้ป่วยโรคเอดส์หรือเอชไอวี (HIV) ทั้งในผู้ใหญ่และในเด็ก รูปแบบยาแผนปัจจุบันของยานี้จะเป็นยาชนิดรับประทาน กรณีที่ใช้รับประทานเป็นตัวยาเดี่ยวๆจะมีการดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้ประมาณ 37% แต่หากรับประทานร่วมกับยา Ritonavir การดูดซึมและการกระจายตัวเข้าสู่กระแสเลือดของยาดารุนาเวียร์จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 82%
ตัวยาดารุนาเวียร์ในกระแสเลือดจะเข้ารวมตัวกับพลาสมาโปรตีนได้สูงถึงประมาณ 95% และ ตัวยานี้จะถูกลำเลียงไปยังตับเพื่อถูกเปลี่ยนโครงสร้าง/ทำลายโดยร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมงขึ้นไปเพื่อการกำจัดยานี้ออกจากกระแสเลือดและผ่านทิ้งไปกับอุจจาระและปัสสาวะ
มีข้อจำกัดบางประการที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ยาดารุนาเวียร์ได้อาทิ
- เป็นผู้ที่มีประวัติแพ้ยาดารุนาเวียร์มาก่อน
- เป็นผู้ป่วยด้วยโรคตับระยะรุนแรง
- ผู้ที่มีการใช้ยาบางกลุ่มที่ไม่สามารถใช้ร่วมกับดารุนาเวียร์ได้เช่น Alfuzosin, Boceprevir (ยาต้านไวรัส), Cisapride, Dronedarone (ยาโรคหัวใจ), Dihydroergotamine, Ergonovine, Ergota mine, Lopinavir (ยาต้านไวรัส), Saquinavir, Ivabradine (ยาโรคหัวใจ), Lovastatin, Pimozide, Rifampin, Salmeterol, Silodosin, Simvastatin, Sildenafil เป็นต้น
- สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการใช้ยาต่างๆหลายประเภทที่จะเกิดผลข้างเคียงจากยาอย่างรุนแรงซึ่งรวมยาดารุนาเวียร์
การบริหารยา/ใช้ยาดารุนาเวียร์กับผู้ใหญ่ โดยทั่วไปแพทย์จะสั่งจ่ายยา Darunavir 800 มิลลิกรัม + ยา Ritonavir 100 มิลลิกรัมหรือยา Cobicistat (ยารักษาโรคเอชไอวี) 150 มิลลิกรัมวันละครั้ง, หรือยา Darunavir 600 มิลลิกรัม + ยา Ritonavir 100 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้งเช้า - เย็น ทั้งนี้ผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอและห้ามหยุดการใช้ยาที่แพทย์สั่งเอง
หลังการใช้ยาดารุนาเวียร์ไปสักระยะหนึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมไขมัน (ทำให้ดูคล้ายเกิดเป็นก้อนเนื้อ) ในบางส่วนของร่างกายมากขึ้นเช่น บริเวณหลัง ช่วงต้นคอ เต้านม แต่จะสูญเสียการสะสมไขมัน (อวัยวะเหล่านั้นจะดูลีบเล็ก) ในบริเวณแขน ขา และใบหน้า นอกจากนั้นในผู้ป่วยบางรายอาจพบภาวะ Stevens-Johnson syndrome เกิดขึ้นได้
อนึ่งยาดารุนาเวียร์ไม่สามารถหยุดการแพร่กระจายของไวรัสเอดส์ได้ทั้งหมด ผู้ป่วยจึงยังต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดต่อเนื่องตามแพทย์นัด
นอกจากนี้ผลการศึกษาทางคลินิกพบว่า การใช้ยาดารุนาเวียร์ร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิดจะส่งผลให้ยาเม็ดคุมกำเนิดดังกล่าวด้อยประสิทธิภาพลง ดังนั้นการคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัยชายจึงเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ปลอดภัยและสามารถลดอัตราการตั้งครรภ์ของผู้ป่วยเอดส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้ยาดารุนาเวียร์กับผู้สูงอายุและเด็กอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง (ผลข้างเคียง) ได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอายุอื่น โดยทั่วไปยาดารุนาเวียร์สามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่พบเห็นบ่อยเช่น ท้องเสีย ปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน
ยาดารุนาเวียร์เป็นยาอีกหนึ่งรายการที่องค์การอนามัยโลกระบุให้เป็นยาจำเป็นขั้นพื้นฐานที่สถานพยาบาลแต่ละแห่งควรมีสำรองไว้ใช้ให้บริการแก่ประชาชน
คณะกรรมการอาหารและยาของไทยก็ได้กำหนดให้ยาดารุนาเวียร์อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติและอยู่ในหมวดยาควบคุมพิเศษ ผู้ป่วยจะต้องรับยานี้จากสถานพยาบาลโดยต้องมีคำสั่งจ่ายของแพทย์เป็นตัวกำกับเท่านั้น
ดารุนาเวียร์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาดารุนาเวียร์มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อบำบัดอาการติดเชื้อไวรัสโรคเอดส์
ดารุนาเวียร์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาดารุนาเวียร์มีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาจะยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส (Protease inhibitor) ของไวรัสเอดส์ส่งผลทำให้ไวรัสนี้ไม่สามารถนำโปรตีนมาใช้ในการเจริญเติบโต ทำให้ไวรัสรุ่นถัดไปไม่สามารถพัฒนาเป็นตัวเต็มวัยได้ส่งผลจำกัดจำนวนไวรัสเอดส์ไม่ให้มีปริมาณมากขึ้นจึงส่งผลดีต่อร่างกายผู้ป่วยเอดส์ในที่สุด
ดารุนาเวียร์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาดารุนาเวียร์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็นยาเม็ดชนิดรับประทานขนาด 400 และ 600 มิลลิกรัม/เม็ด
ดารุนาเวียร์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาดารุนาเวียร์มีขนาดรับประทานเช่น
- ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป: รับประทานยา Darunavir 800 มิลลิกรัม + ยา Ritonavir 100 มิลลิกรัมวันละครั้งพร้อมอาหาร กรณีที่การทดสอบ/ตรวจเลือดของผู้ป่วยตรวจพบว่ามีไวรัสเอชไอวีอย่างน้อย 1 สายพันธุ์ขึ้นไปที่สามารถทนต่อฤทธิ์ของยา Darunavir ให้ปรับการรับประทานเป็นยา Darunavir 600 มิลลิกรัม + Ritonavir 100 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้งเช้า - เย็น
- เด็กอายุ 3 - 18 ปี: การรับประทานยาจะใช้น้ำหนักตัวของผู้ป่วยมาเป็นดัชนีในการคำนวณขนาดการใช้ยา โดยสามารถดูรายละเอียดได้จากเอกสารกำกับยาหรือใช้ยาตามคำสั่งแพทย์เป็นสำคัญ
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี: ปัจจุบันยังไม่มีการแนะนำใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้ด้วยอาจเกิดผลข้างเคียงที่รุน แรงกับเด็กได้เช่น อาการชัก
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาดารุนาเวียร์ ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาดารุนาเวียร์อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาดารุนาเวียร์สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไปไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า แต่การลืมรับประทานยาบ่อยๆหลายครั้งย่อมส่งผลเสียต่อผู้ป่วยโดยตรงและอาจทำให้อาการโรคลุกลามมากยิ่งขึ้น
ดารุนาเวียร์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
การใช้ยา Darunavir ร่วมกับยา Ritonavir สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง /อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องเสียหรือท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปากแห้ง กระ เพาะอาหารอักเสบ
- ผลต่อระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ระดับน้ำตาลใน เลือดสูง ไตรกลีเซอไรด์และแอลดีแอล (LDL) คอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้น เบื่ออาหาร มีภาวะเกาต์กำเริบ ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น อาจพบอาการผื่นคัน ลมพิษ เหงื่อออกมากตอนกลางคืน มีภาวะ Stevens-Johnson syndrome
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น วิงเวียน ปวดศีรษะ ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน ความจำไม่ดี อาจพบอาการชัก
- ผลต่อตับ: เช่น มีระดับเอนไซม์การทำง่านของตับในเลือดเพิ่มขึ้นเช่น เอนไซม์ Aspartate amino transferase
- ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น นอนไม่หลับ ซึมเศร้า ฝันแปลกๆ ฝันร้าย วิตกกังวล รู้สึกสับสน
- ผลต่อหัวใจ: เช่น เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว เจ็บหน้าอกด้วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจเต้นช้า
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น กล้ามเนื้อหดเกร็งตัว/เป็นตะคริว กล้ามเนื้ออ่อนแรง ข้ออักเสบ กล้ามเนื้อลายสลาย
- ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ/ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
มีข้อควรระวังการใช้ดารุนาเวียร์อย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาดารุนาเวียร์เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามปรับขนาดรับประทานหรือหยุดรับประทานยานี้โดยไม่ได้ขอคำปรึกษาจากแพทย์
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งแพทย์
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคตับขั้นรุนแรงเช่น ไวรัสตับอักเสบบี หรือไวรัสตับอักเสบซี
- ปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัดและมารับยาตามแพทย์/โรงพยาบาลนัดทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาดารุนาเวียร์ด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
ดารุนาเวียร์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาดารุนาเวียร์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นเช่น
- ห้ามใช้ยาดารุนาเวียร์ร่วมกับยา Sildenafil ด้วยจะทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบหรืออาการข้างเคียงจากยา Sildenafil มากขึ้น
- การใช้ยาดารุนาเวียร์ร่วมกับยา Hydrocodone ด้วยอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอน วิงเวียน ความดันโลหิตต่ำ เป็นลม และอาจถึงขั้นโคม่า เพื่อเป็นการป้องกันอาการดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาดารุนาเวียร์ร่วมกับยา Phenobarbital อาจเป็นเหตุให้ประสิทธิภาพของยาดารุนาเวียร์ด้อยลง หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
ควรเก็บรักษาดารุนาเวียร์อย่างไร?
ควรเก็บยาดารุนาเวียร์ภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส (Celsius) ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น และไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
ดารุนาเวียร์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาดารุนาเวียร์ที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าและบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่ายเช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Prezista (พรีซิสตา) | Janssen-Cilag |
อนึ่งยาชื่อการค้าของยานี้จากประเทศอินเดียเช่น Daruvir
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Darunavir [25june16]
- http://www.drugs.com/ppa/darunavir.html [25june16]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/prezista/?type=brief [25june16]
- http://www.drugs.com/dosage/darunavir.html [25june16]
- http://www.drugs.com/drug-interactions/darunavir-index.html?filter=3&generic_only= [25june16]