ซูคราลเฟต (Sucralfate)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 25 กุมภาพันธ์ 2563
- Tweet
- บทนำ
- ยาซูคราลเฟตมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยาซูคราลเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาซูคราลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาซูคราลเฟตมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาซูคราลเฟตมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาซูคราลเฟตอย่างไร?
- ยาซูคราลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาซูคราลเฟตอย่างไร?
- ยาซูคราลเฟตมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาลดกรดชนิดน้ำแขวนตะกอน (Antacid Suspension) ยาอลัมมิล (Alum milk)
- กระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis)
- แผลเปบติค (Peptic ulcer) / แผลในกระเพาะอาหาร (Gastric ulcer)
- รังสีรักษา ฉายรังสี ใส่แร่ (Radiation therapy)
- ยาเคมีบำบัด (Cancer chemotherapy)
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
- ยาโรคหัวใจ หรือ ยารักษาโรคหัวใจ (Cardiac Medications)
บทนำ
ซูคราลเฟต (Sucralfate) เป็นยาชนิดรับประทานเพื่อรักษาแผลที่ลำไส้และโรคกรดไหลย้อน มีจำหน่ายในหลายประเทศทั้งแถบยุโรป อเมริกา แคนนาดา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จากข้อมูลทางเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetic, การศึกษาความเป็นไปของยาเมื่อยาเข้าสู่ร่างกาย) พบว่า โครงสร้างทางเคมีของยานี้ประกอบด้วยน้ำตาลซูโครส (Sucrose) ที่รวมอยู่กับสารซัลเฟต-อะลูมิเนียม (Sulfate-Aluminium) ทำให้การดูดซึมจากทางเดินอาหารมีเพียง 3 - 5% ตัวยาจะถูกเปลี่ยนแปลงจากระบบทางเดินอาหารและบางส่วนถูกเปลี่ยนแปลงโดยตับ ร่างกาย จะขับยานี้ออกโดยผ่านไปกับอุจจาระและปัสสาวะ
คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้บรรจุให้ซูคราลเฟตลงในระบบบัญชียาหลักแห่งชาติ และระบุใช้รักษาแผลในระบบทางเดินอาหารของหญิงตั้งครรภ์
ซูคราลเฟตจัดอยู่ในหมวดยาอันตราย การที่จะใช้ยาได้อย่างปลอดภัย ถูกต้อง และเหมาะสม ควรต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
ยาซูคราลเฟตมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาซูคราลเฟตมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบชนิดเรื้อรัง
- รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น (แผลเปบติค)
- ป้องกันการเลือดออกจากแผลในกระเพาะและลำไส้
- รักษาภาวะ/โรคกรดไหลย้อน
- ใช้ร่วมกับยากลุ่มเอ็นเซด (NSAIDs) เพื่อป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
- ใช้เป็นยาทาเพื่อรักษาแผลพุพองและอักเสบของผิวหนัง หรือรับประทานเพื่อป้องกันและ/หรือรักษาแผลในทางเดินอาหาร อันเนื่องมาจากรังสีรักษาหรือยาเคมีบำบัด
ยาซูคราลเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาซูคราลเฟตคือ ตัวยาจะเข้าไปจับกับโปรตีนที่มีประจุไฟฟ้าตามผนังลำไส้ - กระเพาะอาหาร และสร้างกลุ่มเยื่อเมือกปกคลุมมิให้ผนังลำไส้ - กระเพาะอาหารสัมผัสกับกรดในกระเพาะอาหารและกับเอนไซม์ย่อยอาหารต่างๆ (เข่น เปปซิน/Pepsin, น้ำดี) ด้วยกลไกเหล่านี้จึงทำให้เกิดฤทธิ์ในการรักษาตามสรรพคุณ
ยาซูคราลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาซูคราลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาเม็ด ขนาด 500 มิลลิกรัม/เม็ด และ 1 กรัม/เม็ด
- ยาเจล (Gel) ขนาด 1 กรัม/5 มิลลิลิตร
- ยาน้ำ ขนาด 1 กรัม/5 มิลลิลิตร
ยาซูคราลเฟตมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาซูคราลเฟตมีขนาดรับประทาน เช่น
ก. สำหรับแผลในลำไส้เล็ก (Duodenal ulcer): เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 1 กรัมในขณะท้องว่าง 4 ครั้ง/วัน หรือรับประทานครั้งละ 2 กรัม ในขณะท้องว่าง 2 ครั้ง/วัน
ข. เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นแผลในลำไส้เล็ก (Duodenal ulcer prophylaxis): เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 1 กรัมในขณะท้องว่าง วันละ 2 ครั้ง
ค. สำหรับรักษาแผลในกระเพาะอาหาร (Gastric ulcer): เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 1 กรัมในขณะท้องว่าง วันละ 4 ครั้ง
ง. สำหรับรักษาภาวะ/โรคกรดไหลย้อน (GERD): เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 1 กรัมในขณะท้องว่าง วันละ 4 ครั้ง
จ. รักษาแผลพุพองและอักเสบอันเนื่องมาจากรังสีหรือเคมีบำบัด: เช่น
- รับประทานครั้งละ 5 - 10 มิลลิลิตรในขณะท้องว่าง วันละ 4 ครั้ง
*อนึ่ง: เด็ก: ยังไม่มีการแนะนำขนาดยาที่เป็นมาตรฐานในการใช้ยานี้ในเด็ก ดังนั้นการใช้ยานี้ในเด็กจึงขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาซูคราลเฟต ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาซูคราลเฟตอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาซูคราลเฟต สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการ รับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ยาซูคราลเฟตมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาซูคราลเฟตสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- ท้องผูก หรือ ท้องเสีย
- คลื่นไส้
- วิงเวียน
- ปากแห้ง
- รู้สึกไม่สบายในช่องท้อง
- ผื่นคันตามผิวหนัง
- ปวดหัว
- ปวดหลัง
- ง่วงนอน
มีข้อควรระวังการใช้ยาซูคราลเฟตอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาซูคราลเฟต เช่น
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
- ระวังการเกิดพิษจากเกลืออะลูมิเนียม (Aluminium salt, อาการเช่น ความจำเสื่อม สับสน กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดหัว ท้องอืด ปวดท้อง) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในตัวยากับผู้ป่วยด้วยภาวะ/โรคไตวาย
- ระมัดระวังการใช้ยานี้ในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็น เด็กทารก เด็ก สตรีตั้งครรภ์ และ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาซูคราลเฟตด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด เสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยาซูคราลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาซูคราลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การรับประทานยาซูคราลเฟตร่วมกับ ยาต่อไปนี้ อาจทำให้การดูดซึมของยาต่างๆเหล่านั้นลดน้อยลง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาพร้อมกัน ควรรับประทานยาห่างกัน 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ยากลุ่มดังกล่าวเช่น
- ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย/ยาปฏิชีวนะ เช่นยา Tetracyclines
- ยาลดกรด เช่นยา Cimetidine, Ranitidine
- ยาต้านเชื้อรา เช่นยา Ketoconazole
- ยาขยายหลอดลม เช่นยา Theophylline
- ยากันชัก เช่นยา Phenytoin
- ยารักษาโรคหัวใจ เช่นยา Digoxin
- การรับประทานยาซูคราลเฟตร่วมกับ ยาลดกรด เช่นยา แคลเซียมคาร์บอเนต, อะลูมิเนียม ไฮดรอกไซด์, แมกนิเซียมไฮดรอกไซด์ จะทำให้ภาวะความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร - ลำไส้เปลี่ยน แปลงไป จนอาจส่งผลให้ยาซูคราลเฟตไม่สามารถจับกับเยื่อเมือกของผนังกระเพาะและลำไส้ ทำให้ลดประสิทธิภาพในการรักษาของยาซูคราลเฟต หากมีความจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน ต้องปรับระยะ เวลาในการรับประทานให้ห่างกัน 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ
ควรเก็บรักษายาซูคราลเฟตอย่างไร?
ควรเก็บยาซูคราลเฟต เช่น
- เก็บยาที่อุณหภูมิระหว่าง 20 - 25 องศาเซลเซียส (Celsius)
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ยาซูคราลเฟตมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาซูคราลเฟต มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Sucral (ซูคราล) | Ranbaxy |
Sucrate Gel (ซูเครท เจล) | Lisapharma |
Ulcefate/Ulcefate Chewable Tablet (อัลซีเฟต/อัลซีเฟต ชิวเอเบิล แท็ปเลต) | Siam Bheasach |
Ulcrafate (อัลคราเฟต) | Polipharm |
Ulsanic (อัลซานิก) | Siam Bheasach |
บรรณานุกรม
1 http://en.wikipedia.org/wiki/Sucralfate [2020,Feb22]
2 http://www.mims.com/USA/drug/info/sucralfate/ [2020,Feb22]
3 http://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=sucralfate [2020,Feb22]
4 http://www.drugs.com/dosage/sucralfate.html [2020,Feb22]
5 http://en.wikipedia.org/wiki/Aphthous_stomatitis [2020,Feb22]