ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์ (Serotonin releasing agents or SRA)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 29 กันยายน 2559
- Tweet
- บทนำ
- ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีขนาดรับประทาน/การบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์อย่างไร?
- ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์อย่างไร?
- ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ซีโรโทเนอจิก (Serotonergic drug)
- Amphetamines
- เอสเอสอาร์ไอ (Selective serotonin reuptake inhibitors: SSRIs)
- ยาลดความอ้วน (Diet pill or Weight loss drug)
- กลุ่มอาการเซโรโทนิน (Serotonin syndrome)
บทนำ
ยาซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์(Serotonin releasing agents ย่อว่า SRA) หรืออีกชื่อ คือ Selective serotonin releasing agents (ย่อว่า SSRA) เป็นกลุ่มยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งสาร Serotonin ในสมอง ประโยชน์ทางคลินิก จะใช้ยากลุ่มนี้เป็นยาลดน้ำหนัก/ยาลดความอ้วน รักษาภาวะซึมเศร้า และอาการวิตกกังวล ซึ่งยา กลุ่มนี้มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับยากลุ่ม Selective serotonin reuptake inhibitor (SSRIs)
ตัวอย่างของยาในกลุ่มSRAนี้ เท่าที่เคยมีใช้ในทางคลินิก เช่น Chlorphentermine, Cloforex, Dexfenfluramine, Etolorex, Fenfluramine, Flucetorex, Indeloxazine, Levofenfluramine, Tramadol
ยาหลายตัวดังกล่าวข้างต้น มีโครงสร้างที่เป็นอนุพันธ์ใกล้เคียงกับยา Amphetamines จึงส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)กับระบบการทำงานของหัวใจ เช่น ทำให้ลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ เกิดอาการความดันโลหิตภายในปอดสูง หรือยาบางตัวอย่าง Tramadol จัดอยู่ในกลุ่มยา Opioid ถูกนำมาใช้เป็นยาบำบัดอาการปวด ก็สามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้นได้ เช่น เกิดอาการชัก รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ Serotonin syndrome
การเลือกใช้ยาตัวใดในกลุ่ม SRA นี้ แพทย์จะต้องตรวจคัดกรองอาการผู้ป่วยอย่างละเอียดเหมาะสม โดยนำประวัติการเจ็บป่วยทั้งในอดีตและในปัจจุบันของผู้ป่วย โรคประจำตัว อายุ น้ำหนัก สภาวะการตั้งครรภ์ สภาวะให้นมบุตร และมีการใช้ยาตัวอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ มาประกอบการพิจารณา เพื่อที่จะได้คัดเลือกการใช้ยา SRA ได้อย่างเหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป
ยาSRAหลายชนิดจัดเป็นสารเคมีที่อาจทำอันตรายต่อผู้บริโภคได้หากใช้ไม่ถูกวิธี ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและเหมาะสม ผู้ป่วยจึงควรใช้ยากลุ่มนี้ตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์/SRA มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้เป็นยาลดน้ำหนัก/ยาลดความอ้วน
- บำบัดอาการทางจิตประสาท เช่น อาการซึมเศร้า อาการวิตกกังวล
ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์/SRA เป็นกลุ่มยาที่มีกลไกการออฤทธิ์ โดยตัวยา จะกระตุ้นให้มีการการหลั่งสาร Serotoninจากเซลล์สมอง เข้าสู่บริเวณ Neuronal synaptic cleft(บริเวณที่มีการเชื่อมต่อในการทำงานของเซลล์สมอง)ภายในสมอง และทำให้สมดุลของสาร Serotonin ในสมองมีระดับที่เหมาะสม จนช่วยบรรเทาอาการป่วยได้ในที่สุด
ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์/SRA มีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยารับประทาน
- ยาฉีด
- ยาเหน็บทวาร
ยาซีโรโทเนอจิกมีขนาดรับประทาน/การบริหารยาอย่างไร?
ด้วยยาในกลุ่ม SRA มีหลากหลายตัวยาย่อย ซึ่งขนาดรับประทาน และการบริหารยา/ใช้ยาในกลุ่มนี้แต่ละตัวยาย่อย จะขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป โดยต้องอาศัยข้อมูลทางกรแพทย์ของตัวผู้ป่วย เช่น อายุ เพศ โรคประจำตัว ยาอื่นๆที่ผู้ป่วยใช้อยู่ การตั้งครรภ์ การให้นมบุตร เพื่อรวมกับการเลือกใช้ยาSRAแต่ละตัวยาย่อยให้ตรงตามอาการและมีความปลอดภัยต่อผู้ป่วยในแต่ละกรณีให้มากที่สุด นอกจากนั้น หลายอาการของโรค จำเป็นต้องใช้เวลาของการใช้ยา SRA ให้ครบตามมาตรฐานถึงแม้อาการผู้ป่วยจะดีขึ้นแล้วก็ตาม การใช้ยา SRA จึงต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น และห้ามมิให้ผู้ป่วยปรับขนาดการใช้ยาเหล่านี้ด้วยตนเอง ดังนั้นในบทความนี้ จึงขอไม่กล่าวถึงขนาดการใช้ยา SRA
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยา SRA ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัว อย่างเช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคความดันโลหิตต่ำโรคหัวใจ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยา SRA อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
โดยทั่วไป หากลืมรับประทานยา SRA สามารถรับประทานยาเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในครั้งถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 เท่า
แต่อย่างไรก็ดี การลืมรับประทานยาSRAบ่อยครั้ง อาจก่อให้เกิดภาวะถอนยาตามมาและทำให้อาการป่วยทรุดลง การรับประทานยานี้ ตรงเวลา ย่อมส่งผลดีต่อตัวผู้ป่วยเอง
ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ผลไม่พึงประสงค์(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)จากยาซีโรโทนินรีลีสซิ่งเอเจนท์/SRA สามารถส่งผลกระทบ/ผลข้างเคียงต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ได้ดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น มีอาการง่วงนอน วิงเวียน รู้สึกสับสน ปวดศีรษะ ซึมเศร้า วิตกกังวล หงุดหงิด นอนไม่หลับ พูดจาไม่ชัด
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น การรับรสชาติอาหารเปลี่ยนไป ท้องเสีย ปากแห้ง
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีเหงื่อออกมาก ลมพิษ มีผื่นคัน และรู้สึกแสบร้อนตามผิวหนัง
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ความดันโลหิตต่ำหรือไม่ก็สูง ความดันของหลอดเลือดแดงในปอดสูง ชีพจรเต้นผิดจังหวะ เจ็บหน้าอก เป็นลม
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น ปัสสาวะขัด ปวดปัสสาวะบ่อย
- ผลต่อตา: เช่น ตาพร่า ระคายเคืองตา
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดกล้ามเนื้อ
- อื่นๆ: เช่น มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย
*อนึ่ง สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่ม SRA เกินขนาด จะมีอาการ กระสับกระส่าย ง่วงนอน รู้สึกสับสน หน้าแดง เกิดอาการตัวสั่น มีไข้ เหงื่อออกมาก ปวดท้อง หายใจถี่และเร็ว รูม่านตาขยาย หนังตากระตุก หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดอาการชัก มีภาวะโคม่า หัวใจหยุดเต้น หากพบอาการดังกล่าว ควรรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
มีข้อควรระวังการใช้ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์อย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาซีโรโทนินรีลีสซิ่งเอเจนท์/SRA เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาในกลุ่มนี้
- ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง และต้องใช้ยาSRAตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
- ห้ามใช้ยานี้กับ เด็ก สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจล้มเหลว ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือด ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ผู้ป่วยโรคลมชัก
- ระวังการเกิด Serotonin syndrome ในระหว่างใช้ยานี้
- หากใช้ยานี้แล้วอาการไม่ดีขึ้น เช่น ในการใช้เป็นยาลดน้ำหนัก แล้วน้ำหนักตัวไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ห้ามปรับขนาดรับประทานเพิ่มด้วยตนเองโดยเด็ดขาด แต่ควรกลับมาปรึกษาแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัด เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
- ปฏิบัติตามคำสั่ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อย่างเคร่งครัด และมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยากลุ่มซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์/SRAด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บhaamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์/SRA มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามใช้ยา Fenfluramine ร่วมกับยา 5-Hydroxytryptophan ด้วยจะก่อให้เกิดภาวะ Serotonin syndrome ติดตามมา
- การใช้ยา Tramadol ร่วมกับยาแก้ปวดชนิดที่เป็นยาเสพติดอย่างเช่น ยาCodeine และยา Fentanyl สามารถเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการชัก อึดอัด/หายใจไม่สะดวก/หายใจลำบาก มีอาการตัวสั่น การพูดจาติดขัด เดินเซ เป็นต้น หากมีความประสงค์จะใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการรับประทานให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นกรณีไป
- การใช้ยา Chlorphentermine ร่วมกับยาบางตัว เช่น Acetaminophen, Acetylsalicylic acid, Aminophylline, Butalbital(ยาแก้ปวด), สามารถทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียงต่างจากตัวยา Chlorphentermine ได้เพิ่มมากขึ้น หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
ควรเก็บรักษาซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์อย่างไร?
ควรเก็บยาSRAภายใต้อุณหภูมิที่ระบุมากับเอกสารกำกับยา ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงสว่าง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ซีโรโทนิน รีลีสซิ่ง เอเจนท์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาSRAที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Amanda (อแมนดา) | Unison |
Anadol (อนาดอล) | T.O. Chemicals |
Analab (อนาแลบ) | Biolab |
Duocetz (ดูโอเซทซ์) | Mega Lifesciences |
Mabron (มาบรอน) | Medochemie |
Madol (มาดอล) | Masa Lab |
Madola (มาโดลา) | Pharmaland |
Matradol (มาทราดอล) | Charoon Bhesaj |
Modsenal (มอดเซนอล) | T. Man Pharma |
Pacmadol (แพกมาดอล) | Inpac Pharma |
Paindol (เพนดอล) | Polipharm |
Pondimin (พอนดิมิน) | Robins Pharm |
Zarontin (ซารอนติน) | Pfizer |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Serotonin_releasing_agent [2016,Sept10]
- http://www.drugbank.ca/drugs/DB01556 [2016,Sept10]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Fenfluramine [2016,Sept10]
- https://www.drugs.com/tramadol.html [2016,Sept10]