ซิงค์ซัลเฟต (Zinc sulfate)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 9 ธันวาคม 2563
- Tweet
- บทนำ
- ซิงค์ซัลเฟตมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ซิงค์ซัลเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ซิงค์ซัลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ซิงค์ซัลเฟตมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ซิงค์ซัลเฟตมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ซิงค์ซัลเฟตอย่างไร?
- ซิงค์ซัลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาซิงค์ซัลเฟตอย่างไร?
- ซิงค์ซัลเฟตมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาหยอดตา (Eye drops)
- ท้องเสีย (Diarrhea)
- โรคท้องร่วงจากไวรัสโรตา (Rotavirus infection)
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
- อาหารไม่ย่อย ธาตุพิการ (Indigestion)
บทนำ
ซิงค์ซัลเฟต (Zinc sulfate หรือ Zinc sulfate) เป็นสารประกอบอนินทรีย์ สูตรทางเคมีคือ ZnSO4 การผลิตเพื่อวัตถุประสงค์นำมาเป็นยารักษาโรค ต้องใช้ซิงค์ออกไซด์ (ZnO) ที่เป็นเกรดบริสุทธิ์ทำปฏิกิริยากับกรดซัลฟิวริก (Sulfuric acid) และน้ำ ทางเภสัชกรรมนำมาผลิตเป็นยารับประทานและยาใช้ภายนอก
หลังการรับประทานซิงค์ซัลเฟต พบว่ายานี้จะถูกกำจัดออกทางอุจจาระประมาณ 90% ที่เหลือจะขับออกทางปัสสาวะ
องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบและป่วยด้วยโรคท้องร่วง ต้องได้รับ ธาตุสังกะสี (Zn: Zinc) เสริมการรักษา 10 - 14 วัน เพื่อลดอาการรุนแรงและป้องกันการกลับมาเป็นใหม่ กระทรวงสาธ่ารณสุขของไทยบรรจุซิงค์ซัลเฟตลงในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยใช้เป็นเกลือแร่กับผู้ป่วยที่ร่างกายขาดธาตุสังกะสี ใช้สนับสนุนการรักษาอาการท้องเสียในเด็ก ยาทารัก ษาผิวหนัง ยาหยอดตา เป็นต้น
ซิงค์ซัลเฟตมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาซิงค์ซัลเฟตมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้บำบัดรักษาผู้ป่วยที่ร่างกายมีภาวะขาดธาตุสังกะสี
- เป็นส่วนผสมของยาหยอดตา เพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง
- ใช้เสริมแร่ธาตุสังกะสี โดยเป็นส่วนผสมของนมที่ใช้เลี้ยงเด็กเล็กอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป
ซิงค์ซัลเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ในรูปแบบยาหยอดตา: ซิงค์ซัลเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์ โดยจะสมานหรือตกตะกอนโปร ตีน มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้เล็กน้อย พร้อมกับช่วยขยายหลอดเลือดในลูกตา
สำหรับยารับประทาน: ซิงค์ซัลเฟตเป็นยาเสริมแร่ธาตุในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดธาตุสังกะสี โดยธาตุสังกะสีในซิงค์ซัลเฟตจะเป็นองค์ประกอบหนึ่งในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนของร่างกาย
ซิงค์ซัลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาซิงค์ซัลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- รูปแบบยาแคปซูล ขนาด 66 และ 110 มิลลิกรัม/แคปซูล
- รูปแบบวิตามินเสริมแร่ธาตุ บำรุงร่างกาย ชนิดเม็ด และแคปซูล
- รูปแบบผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กเล็ก
- รูปแบบยาหยอดตา ขนาดบรรจุ 10 มิลลิลิตร
- รูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ขนาด 5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
ซิงค์ซัลเฟตมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาซิงค์ซัลเฟตมีขนาดรับประทาน เช่น
ก. สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะร่างกายขาดธาตุสังกะสี: เช่น
- ผู้ใหญ่ : รับประทาน 50 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง
- เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก) : สำหรับผู้ป่วยเด็กด้วยโรคท้องเสีย โดยข้อตกลงขององค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ แนะนำขนาดรับประทาน ดังนี้คือ
- เด็กเล็กช่วงอายุมากกว่า 6 เดือน: รับประทานธาตุสังกะสีเมื่อมีภาวะท้องเสีย 20 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา10 - 14 วัน
- เด็กเล็กช่วงอายุต่ำกว่า 6 เดือน: รับประทาน ธาตุสังกะสี 10 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 10 - 14 วัน
ข. สำหรับยาหยอดตา: เช่น
- ผู้ใหญ่: หยอดตา 1 - 2 หยด วันละ 2 - 4 ครั้ง/วัน
- เด็ก: การใช้ยาขึ้นกับความรุนแรงของอาการ และอายุของเด็ก จึงต้องใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาซิงค์ซัลเฟต ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก /หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยา หรืออาหารเสริม อะไรอยู่ เพราะยาซิงค์ซัลเฟตอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆและ/หรือ กับอาหารเสริม ที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาซิงค์ซัลเฟต สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ซิงค์ซัลเฟตมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาซิงค์ซัลเฟตสามารถก่อให้เกิด ผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/ อาการข้างเคียง) เช่น
- มีอาการปวดท้อง
- อาหารไม่ย่อย
- คลื่นไส้-อาเจียน
- ท้องเสีย
- กระเพาะอาหารอักเสบ
- การรับประทานธาตุสังกะสีนานเกินไป อาจทำให้ร่างกายขาดธาตุทองแดง (ทองแดง มีคุณสมบัติช่วยในการเสริมสร้างให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้เอนไซม์ต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานต่างๆ)ได้
มีข้อควรระวังการใช้ซิงค์ซัลเฟตอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาซิงค์ซัลเฟต เช่น
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
- การใช้ยาซิงค์ซัลเฟตทั้งในรูปแบบยารับประทานและยาฉีด ควรต้องได้รับการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (การตรวจซีบีซี/CBC), ปริมาณคอเลสเตอรอล และปริมาณธาตุทองแดงในเลือดว่าปกติหรือไม่
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาซิงค์ซัลเฟตด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพร ต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด เสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ซิงค์ซัลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาซิงค์ซัลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การรับประทานยาซิงค์ซัลเฟตร่วมกับยาดังต่อไปนี้ จะทำให้การดูดซึมของยาซิงค์ซัลเฟต และยาเหล่านั้น จากระบบทางเดินอาหารลดน้อยลงไป จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อมกัน ยากลุ่มดังกล่าว เช่น
- ยาที่มีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบ เช่นยา Ferrous sulfate
- ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย (ยาปฏิชีวนะ) บางชนิด เช่นยา Tetracyclines
- ยาแก้อาการปวดจากโรคข้อรูมาตอยด์ เช่นยา Penicillamine
- การรับประทานยาซิงค์ซัลเฟตร่วมกับอาหารหรืออาหารเสริมที่มีแร่ธาตุฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบ สามารถลดการดูดซึมของยาซิงค์ซัลเฟตได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานร่วมกัน
- การรับประทานยาซิงค์ซัลเฟตร่วมกับยาบางกลุ่ม ยาซิงค์ซัลเฟตจะไปลดการดูดซึมของยากลุ่มดังกล่าว อาทิเช่น
- ยาที่มีส่วนผสมของทองแดงเป็นองค์ประกอบ เช่น Cupric chloride
- ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย/ ยาปฏิชีวนะ บางชนิด เช่นยา Ciprofloxacin, Levofloxacin, Moxifloxacin, Norfloxacin, และ Offloxzcin
ควรเก็บรักษาซิงค์ซัลเฟตอย่างไร?
ควรเก็บยาซิงค์ซัลเฟต เช่น
- เก็บยาที่อุณหภูมิไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส (Celcius)
- เก็บยาให้พ้นแสง /แสงแดด และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ซิงค์ซัลเฟตมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาซิงค์ซัลเฟต มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Biotrat (ไบโอเทรต) | Biodeal |
Imugins (อิมูจิน) | Schumit |
Multicap (มัลติแคป) | Sriprasit Dispensary |
Obimin-AZ (โอบิมิน-เอแซท) | Great Eastern |
Oculosan (อ็อกคูโลซาน) | Excelvision AG |
Opplin (ออพพลิน) | Thai Nakorn Patana |
Topper-M (ทอปเปอร์-เอ็ม) | Chinta |
Visotone (วิโซโทน) | British Dispensary (L.P.) |
Vitacap (ไวต้าแคป) | Neopharm |
Vitaral SM (วิทารอล เอสเอ็ม) | Kenyaku |
Vitop (ไวท็อป) | Olan-Kemed |
Zincaps (ซิงค์แคป) | ST Pharma |
Zincate (ซิงค์เคท) | ST Pharma |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Zinc_sulfate [2020,Dec5]
- http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fUSA%2fdrug%2finfo%2fzinc%2520sulfate%2f%3ftype%3dfull%26mtype%3dgeneric#Dosage [2020,Dec5]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=zinc%20sulfate [2020,Dec5]
- https://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fThailand%2fdrug%2finfo%2fZincate%2f%3ftype%3dbrief [2020,Dec5]