ชีวิตหลังการติดเชื้อในกระแสเลือด (ตอนที่ 3)

ชีวิตหลังการติดเชื้อในกระแสเลือด-3

      

ภาวะติดเชื้อในทารกแรกเกิด (ต่อ)

  • ผิวซีด
  • ท้องบวม
  • อาเจียน
  • ท้องเสีย
  • ชัก
  • สะดุ้งผวา (Jitteriness)

ทั้งนี้ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดมักเกิดและรุนแรงในบุคคลต่อไปนี้

  • ผู้สูงอายุ
  • หญิงตั้งครรภ์
  • เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี
  • ผู้ที่ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคปอด หรือ โรคมะเร็ง
  • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ

และมักเกิดในผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหรือผู้ที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลไม่นาน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ในห้องไอซียูที่ร่างกายอ่อนแอและง่ายต่อการติดเชื้อ

การรักษาภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดแต่เนิ่น ๆ มักทำด้วยการให้ยาปฏิชีวนะปริมาณมากทางหลอดเลือด ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสรอดชีวิตได้

สำหรับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดหรือไม่ดูได้จาก

  • มีการเปลี่ยนแปลงสภาพจิต (Mental status)
  • ค่าความดันตัวบนที่เรียกว่า Systolic pressure ≤ 100 มิลลิเมตร
  • อัตราการหายใจ ≥ 22 ครั้งต่อนาที

ส่วนการวินิจฉัยว่ามีภาวะช็อคจากการติดเชื้อดูได้จาก

  • ต้องมีการให้ยาเพื่อคงระดับความโลหิตให้ ≥ 65 มิลลิเมตร
  • มีระดับแลคเตทในเลือด (Serum lactate) สูง ซึ่งการมีกรดแลคติก (Lactic acid) ในเลือดมากเกินไปจะทำให้เซลล์มีการใช้ออกซิเจนไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการตรวจเลือด ปัสสาวะ สารคัดหลั่งของแผล สารคัดหลั่งของทางเดินหายใจ การเอ็กซเรย์ อัลตราซาวด์ ซีทีสแกน เอ็มอาร์ไอ ช่วยในการวินิจฉัยด้วย

แหล่งข้อมูล:

  1. Sepsis. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sepsis/symptoms-causes/syc-20351214 [2020, Jul 13].
  2. Sepsis. https://www.healthline.com/health/sepsis [2020, Jul 13].