จิตวิทยาผู้สูงวัย ตอนที่ 329 : การวิ่งในผู้สูงวัย 4
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 4 สิงหาคม 2564
- Tweet
งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ตีพิมพ์ในวารสาร Neurology ในปี ค.ศ. 2018 รายงานผลการติดตามพัฒนาการของสมองในสตรีชาวสวีเดนจำนวน 191 คน (ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 50 ปี ตอนเริ่มงานวิจัย) ยาวนานถึง 44 ปี แล้วพบว่า สตรีที่แข็งแรงมาก (Highly fit) มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมเพียง 5% ส่วนสตรีที่แข็งแรงปานกลาง มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคสมองเสื่อม 32% และสตรีที่แข็งแรงน้อย จะมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมถึง 45%
นักวิจัยสรุปว่า สตรีที่แข็งแรงมาก หากเป็นโรคสมองเสื่อม จะเป็นตอนอายุ 90 ปี ช้ากว่าสตรีที่แข็งแรงปานกลางถึง 11 ปี ซึ่งเริ่มจะเป็นโรคสมองเสื่อมเมื่ออายุ 79 ปี ส่วนคนปรกติ จะเริ่มเป็นโรคสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ส (Alzheimer’s) เมื่ออายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
ยังมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารโรคอัลไซเมอร์ส (Journal of Alzheimer’s Disease) ในปี ค.ศ. 2014 ซึ่งติดตามชาย-หญิง 153,000 คนที่ออกกำลังกายโดยการเดินและวิ่งเป็นเวลา 12 ปี พบว่าโรคอัลไซเมอร์สเป็นสาเหตุให้ผู้เสียชีวิตจำนวน 175 คน โดยมีผลสรุป ดังนี้
- คนที่วิ่งมากกว่าสัปดาห์ละ 24 กิโลเมตร มีความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคอัลไซเมอร์ส ลดลงมากถึง 40%
- คนที่วิ่งสัปดาห์ละ 12 ถึง 25 กิโลเมตร มีความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคอัลไซเมอร์ส ลดลงมากถึง 25% ทั้งนี้ หากต้องการจะเดินแทนการวิ่ง ต้องเดินโดยใช้เวลาเป็น 2 เท่าของคนที่วิ่งสัปดาห์ละ 12 ถึง 25 กิโลเมตร
- การกินยาสแตติน (Statin) เพื่อลดคอลเลสเตอรอล (Cholesterol) ช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคอัลไซเมอร์ส ลงถึง 60% ซึ่งเท่ากับผลของการกินแอปเปิ้ลวันละ 3 ครั้ง (Serving)
ผู้ที่กลัวการวิ่ง มักมี 2 เหตุผล คือ (1) กลัวหัวเข่าเจ็บหรือสึกกร่อน และ (2) กลัวเจ็บหลังหรือหมอนรองกระดูกสันหลังทรุด แต่จากการค้นหาข้อมูลสถิติเชิงวิชาการของ ดร. ศุภวุฒิ สายเชื้อ ไม่พบประจักษ์หลักฐานใดที่บ่งชี้ว่า การวิ่งทำให้ผู้วิ่งเสี่ยงต่อการเจ็บหัวเข่าหรือเจ็บหลัง
แต่ตรงกันข้าม มีหลักฐานจากงานวิจัยด้วยซ้ำว่า การวิ่งจะทำให้หัวเข่าและกระดูกสันหลัง รวมทั้งหมอนรองกระดูกสันหลังแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเจ็บหัวเข่าและการเจ็บหลังในวัยชรา
การศึกษาโดย Osteoarthritis Initiative ที่ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institute of Health) และบริษัทยาชั้นนำ ในสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2017 ได้ใช้เวลา 8 ปี ในการเก็บข้อมูลและติดตามผลจากผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวน 2,637 คน โดยอายุเฉลี่ย 64 ปี เป็นหญิง 56% และชาย 44% โดยที่ 778 คนออกกำลังด้วยการวิ่งเป็นครั้งคราว บทสรุปก็คือ คนที่วิ่งเป็นครั้งคราว มิได้มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่หัวเข่า แต่คนที่ยิ่งวิ่งมาก ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการปวดหัวเข่าน้อยลง
แหล่งข้อมูล:
- ศุภวุฒิ สายเชื้อ, ดร. (2562). Healthy Aging: เกิด แก่ (ไม่) เจ็บ ตาย - สูงวัยอย่างมีคุณภาพ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks ในเครือบริษัท โอเพ่น โซไซตี้ จำกัด
- Kathleen Dohe¬ny (2014). Study Links Running to Lower Alzheimer’s Death Risk, Higher Fruit Intake, Cholesterol-lowering Drugs Also Associated with Reduced Risk. Health Day, last modified December 4, 20014.
- Grace H. Lo, et al. (2017). History of Running Is Not Associated with Higher Risk of Symptomatic Knee Osteoarthritis: A Cross-sectional Study from the Osteoarthritis Initiative. Arthritis Care & Research. V. 69 (2), pp, 183 – 189, February 2017.