คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน อาหารและโรคไทรอยด์ (ตอน 1)

คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง-430

      

คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน อาหารและโรคไทรอยด์ (ตอน1)

Angela M, Leung และ Gonzalo J. Acosta แพทย์ด้านโรคต่อมไร้ท่อ จาก UCLA Health and the VA Greater Los Angeles Healthcare System, USA และ สมาคมโรคไทรอยด์ สหรัฐอเมริกา (American Thyroid Association) ได้เขียนเผยแพร่ในข่าวสารการแพทย์ Medscape oncology ทางอินเทอร์เนต เมื่อ 18มกราคม 2021 ในเรื่องอาหารที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าน่าสัมพันธ์กับโรคไทรอยด์ สรุปโดยทั่วไป อาหารที่เกี่ยวข้องกับโรคไทรอยด์ ได้แก่ ไอโอดีน, อาหารกลุ่มอาจทำให้เกิดคอพอก, ผักตระกูลกะหล่ำ, ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง, เกลือแร่/แร่ธาตุบางชนิดที่ร่างกายต้องการในปริมาณเล็กน้อย, และอื่นๆ

ตอน 1 นี้ จะสรุปเฉพาะในเรื่อง”ไอโอดีน’ ส่วนอาหารอื่นๆจะทยอยเขียนสรุปในตอนถัดๆไป

ไอโอดีน: ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ที่สำคัญจะสร้างจากส่วนประกอบสำคัญคือ เกลือแร่/แร่ธาตุไอโอดีนในรูปเกลือไอโอดายด์ ดังนั้นถ้าร่างกายขาดไอโอดีนจะส่งผลให้เกิดโรค/ภาวะผิดปกติรุนแรงของร่างกายที่เรียกว่า ’ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน หรือ โรคไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ’ ซึ่งในสตรีตั้งครรภ์และในภาวะให้นมบุตรร่างกายจะต้องการไอโอดีนมากขึ้นกว่าภาวะปกติ

องค์กรทางการแพทย์ สหรัฐอเมริกา(The Institute of Medicine of the National Academies) ได้แนะนำปริมาณไอโอดีน/วันที่ผู้ใหญ่อเมริกันทั่วไปควรได้รับคือ150µg/วัน, สตรีตั้งครรภ์ควรได้รับ/วันคือ220µg/วัน, ส่วนสตรีให้นมบุตรควรเป็น290µg/วัน

คนปกติทั่วไป การได้รับไอโอดีนจากอาหารประจำวันที่มีไอโอดีนในอาหารก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และการกินอาหารเสริมไอโอดีน ควรต้องเป็นคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น

อาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่น อาหารทะเล, เกลือเสริมไอโอดีน, สาหร่ายทะเล, ขนมปังที่ใช้เกลือไอโอดีน

การบริโภคไอโอดีนสูงจะเกิดโทษได้ โดยอาจเป็นสาเหตุให้เกิด ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน หรือ ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนก็ได้ หรืออาจเป็นสาเหตุให้เกิด ต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง, หรือโรคออโตอิมมูน/โรคภูมิต้านตนเองของต่อมไทรอยด์ที่อาจรวมถึงโรคต่อมไทรอยด์อักเสบฮาสชิโมโต ก็ได้เช่นกัน

อนึ่ง: ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายที่บังคับให้ฉลากอาหารต้องระบุกำกับปริมาณไอโอดีน

ครั้งต่อไป เป็นตอน 2 : อาหารกลุ่มอาจทำให้เกิดคอพอก

แหล่งข้อมูล:

  1. https://www.medscape.com/viewarticle/943151 [2021,Sept8]