คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน ผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งอัณฑะ
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 26 ตุลาคม 2563
- Tweet
การรักษามะเร็งอัณฑะชนิดเนื้องอกเจิมเซลล์(Germ cell carcinoma ย่อว่า GCC) คือการผ่าตัดอัณฑะข้างเกิดโรค อาจร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด ส่วนน้อยอาจให้รังสีรักษา
คณะแพทย์จากประเทศเดนมาร์ก นำโดย นพ. Jakob Lauritsen จาก Copenhagen University Hospital, Copenhagen, Denmark ต้องการศึกษาถึงผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัด(โดยการใช้ยาเคมีบำบัด 3 ตัวร่วมกัน คือ Bleomycin, Etoposide และ Cisplatin ย่อว่า BEP) ว่าจะมีผลข้างเคียงระยะยาวให้เกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดจนเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยหรือไม่ และได้ตีพิมพ์การศึกษานี้ในวารสารโรคมะเร็ง the Journal of radiation oncology(JCO) ฉบับ 20 กุมภาพันธ์ 2020
การศึกษานี้ ศึกษาผู้ป่วยมะเร็ง GCC 5,185 ราย (ได้รับยาเคมีบำบัด BEP หลังผ่าตัด=1,819 ราย) จากทะเบียนผู้ป่วยมะเร็งอัณฑะจาก the Danish Testicular Cancer database เปรียบเทียบอัตราเกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดกับประชากรชายเดนมาร์กทั่วไปทั้งหมด 51,850 ราย(จากทะเบียนผู้ป่วยทั่วไป Danish registries) ระยะเวลากึ่งกลาง(median time)ในการติดตามโรค=15.8 ปี ซึ่งผลการศึกษาพบว่า
- ภายหลังการรักษา 1 ปี อัตราเกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด(โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดหัวใจ, และลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ) ของผู้ป่วยได้รับยาเคมีบำบัด BEP สูงกว่าประชากรชายฯทั่วไป แต่อัตราเกิดได้ลดลงไม่ต่างจากชายทั่วไปหลัง 1 ปีไปแล้ว
- แต่หลังจาก 10 ปีไปแล้ว อัตราเกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดจะกลับมาสูงขึ้นแต่ไม่ต่างกันมากกับชายฯทั่วไป
- ซึ่งในผู้ป่วยมะเร็ง GCC ที่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดวิธีการเดียว อัตราเกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดเท่ากับชายเดนมาร์กทั่วไป
คณะผู้ศึกษาสรุปผลการศึกษานี้ว่า ในผู้ป่วยมะเร็งอัณฑะGCC ที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด BEP มีโอกาสเกิดโรคในระบบหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าชายฯทั่วไปในระยะ1ปีหลังการรักษา แต่เมื่อผ่านพ้นระยะเวลา 1 ปีไปแล้ว อัตราการเกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าชายเดนมาร์กทั่วไป แต่สูงกว่าไม่มาก ดังนั้นผู้ป่วยจึงควรได้รับการตรวจคัดกรองโรคในระบบหัวใจและหลอดเลือดเช่นเดียวกับชายเดนมาร์กทั่วไป
แหล่งข้อมูล:
- JCO 2020; 38(6): 584-592 (abstract)