อัตราเกิดมะเร็งชนิดที่ 2 ในผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่รักษาด้วยการผ่าตัดและน้ำแร่รังสีไอโอดีน
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 26 สิงหาคม 2562
- Tweet
มะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดพบบ่อยที่สุดมากกว่า90%ของโรค คือชนิดที่เซลล์แบ่งตัวได้ดี ผู้ป่วยโรคนี้มจะมีอัตรารอดชีวิตที่10 ปี สูงถึงมากกว่า 80%ของผู้ป่วย ซึ่งการรักษามะเร็งกลุ่มนี้คือการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกและร่วมกับการรักษาต่อเนื่องด้วยการกินน้ำแร่รังสีไอโอดีนในปริมาณสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่ซุกซ่อนอยู่ในอวัยวะต่างๆทั่วร่างกายที่รวมถึงเซลล์ต่อมไทรอยด์ที่มักหลงเหลืออยู่หลังผ่าตัด น้ำแร่รังสีไอโอดีนที่ผู้ป่วยได้รับหลังผ่าตัดไทรอยด์นี้ จะมีผลต่อไขกระดูกได้ในระยะยาว คือ การเกิดมะเร็งของไขกระดูก หรือที่เรียกว่า มะเร็งระบบโลหิตวิทยา/มะเร็งโรคเลือด โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาว แพทย์จึงต้องการทราบถึง อัตราเสี่ยงของการเกิด’มะเร็งชนิดที่2ชนิดมะเร็งโรคเลือด’หลังได้รับการรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีน(น้ำแร่รังสีฯ) จึงเป็นที่มาของการศึกษานี้
การศึกษานี้เป็นการศึกษาจากคณะแพทย์และนักวิทยาศาสตร์นำโดย นพ.Remco J. Molenaar แพทย์ระบบโรคเลือด ชาวเนเทอร์แลนด์ที่ทำงานในสหรัฐอเมริกา และได้รายงานการศึกษานี้ในวารสารการแพทย์ชื่อ J Clin Oncol(JCO) ฉบับเดือนมิถุนายน 2018 โดยเป็นการศึกษาย้อนหลังจาก The Surveillance, Epidemiology, and End Results (SEER)ซึ่งเป็นหน่วยงานเก็บรวมรวมสถิติต่างๆของโรคมะเร็งของสหรัฐอเมริกา
การศึกษานี้ศึกษาในผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเซลล์แบ่งตัวได้ดี(มะเร็งไทรอยด์) 148,215 ราย เป็นผู้ป่วยผ่าตัดวิธีเดียว 53% (กลุ่มควบคุม) และผู้ป่วยผ่าตัด+ได้รับน้ำแร่รังสีไอโอดีน(ผู้ป่วยน้ำแร่รังสีฯ)หลังผ่าตัด 47%(กลุ่มศึกษา)
ผลพบว่า ผู้ป่วยผ่าตัด+น้ำแร่รังสี มีอัตราเกิดมะเร็งโรคเลือดสูงกว่ากลุ่มผ่าตัดวิธีเดียวอย่างมีความสำคัญทางสถิติ โดยมะเร็งโรคเลือดที่พบคือมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเอเอ็มแอล(AML)(P = .01) และมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดซีเอ็มแอล(CML) (P < .001)และไม่พบสัมพันธ์กับมะเร็งโรคเลือดชนิดอื่นๆ ทั้งนี้การเกิดมะเร็งโรคเลือดตามหลังการให้น้ำแร่รังสีฯนี้ พบได้หลังติดตามผู้ป่วยนานช่วง 3.3-11.2ปี(จุดกลางของการติดตาม/median time คือ 6.5ปี)
นอกจากนั้น การศึกษานี้ยังพบว่า
-ผู้ป่วยกลุ่มได้น้ำแร่รังสีที่เกิดมะเร็งชนิดที่2 ชนิดCML มีอัตรารอดชีวิตไม่ต่างอย่างมีความสำคัญทางสถิติกับกลุ่มไม่เกิดCML
-แต่ผู้ป่วยกลุ่มได้น้ำแร่รังสีที่เกิดมะเร็งชนิดที่2 ชนิด AML มีจุดกึ่งกลางอัตรารอดชีวิต(Median survival time)ที่8ปี ซึ่งต่างกันอย่างมีความสำคัญทางสถิติกับผู้ไม่เกิดAMLที่มีจุดกึ่งกลางอตัรารอดชีวิติอยู่ที่ 31ปี (P = .001)
คณะผู้ศึกษา ได้สรุปว่า จากการศึกษานี้ บอกได้ว่า การเลือกรักษาต่อเนื่องในมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเซลล์แบ่งตัวดีด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีน ควรมีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน ว่าการให้น้ำแร่รังสีฯ มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยมากกว่าโทษ นั่นคือช่วยเพิ่มอัตรารอดชีวิตของผู้ป่วยจากมะเร็งต่อมไทรอยด์รวมถึงช่วยลดโอกาสย้อนกลับเป็นซ้ำของมะเร็งต่อมไทรอยด์ฯด้วย และแนะนำเพิ่มเติมว่า หลังการรักษาครบถ้วนแล้ว ผู้ป่วยควรพบแพทย์ตามนัดเสมอ เพื่อให้สามารถวินิจฉัยมะเร็งชนิดที่2นี้ได้รวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลให้การรักษาได้รับผลดีขึ้น
ทั้งนี้ แนวทางการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเซลล์แบ่งตัวดีในประเทศไทย ก็เช่นเดียวกับในต่างประเทศ รวมถึงการจะรักษาต่อเนื่องจากการผ่าตัด ด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีน ก็จะเป็นไปตาม ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ การมีความเห็นตรงกันของทั้งศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดและของแพทย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์/รังสีรักษา(แพทย์ผู้ให้การรักษาทางรังสี) และรวมถึงของผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยด้วย
แหล่งข้อมูล:
- JCO 2018;36(18):1831-1839