การตรวจไอเอ็นอาร์ (INR test)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 21 มกราคม 2561
- Tweet
- โรคเลือด (Blood Diseases)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด/">ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ยากันเลือดแข็งตัว (Anticoagulants)
- ยาต้านเกล็ดเลือด (Antiplatelet drug)
- วาร์ฟาริน (Warfarin) หรือ คูมาดิน (Coumadin)
- ยาสลายลิ่มเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด (Fibrinolytic drugs or Thrombolytic drugs)
- ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ (Venous thrombosis)
ไอเอ็นอาร์(INR)ย่อมาจาก International normalized ratio ซึ่งการตรวจไอเอ็นอาร์(INR test)คือการตรวจเพื่อดูระยะเวลาในการแข็งตัวของเลือด หรือตรวจเพื่อดูว่าเลือดจะเกิดลิ่มเลือดได้เมื่อไหร่/เลือดหยุดไหลได้เมื่อไหร่เมื่อเกิดเลือดออก ซึ่งการตรวจหาระยะเวลาการแข็งตัวของเลือดนี้ ก็คือ“การตรวจระยะเวลาทำงานของโปรทรอมบิน(Prothrombin)/ Prothrombin time ที่เรียกว่า Prothrombin time test ย่อว่า PT test”
การตรวจไอเอ็นอาร์ มีข้อบ่งใช้กรณีผู้ป่วยได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือทั่วไปเรียกว่า ยาทำให้เลือดจาง หรือ ยาเจือจางเลือด (Blood thinning drug/agent/medication) เช่น ยาWarfarin ที่โดยทั่วไปเป็นยาใช้ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในผู้ป่วยหลายกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ, โรคลิ้นหัวใจ
นอกจากนั้น การตรวจไอเอ็นอาร์ ยังใช้ช่วยวินิจฉัยว่าผู้ป่วยใดมีโรค/ปัญหาโรคเลือด, โรคตับ, หรือภาวะขาดวิตามินเค ที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดหรือไม่ ซึ่งการตรวจไอเอ็นอาร์เป็นการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ
อนึ่ง ค่าปกติในการตรวจ PT test หน่วยการตรวจจะเป็นวินาที แต่ถ้า เป็นการตรวจไอเอ็นอาร์ซึ่งรายงานผลเป็นอัตราส่วน(Ratio)จึงไม่มีหน่วย โดย
- ค่าปกติจาก PT test คือ 11-13.5 วินาที
- ค่าปกติจาก INR test คือ 0.8-1.1
บรรณานุกรม