กระดานสุขภาพ

โรคเส้นเลือดฝอยในสมองตีบ
Emmy*****y

22 ตุลาคม 2555 17:15:37 #1

สวัสดีค่ะ คุณหมอ พอดีว่าคุณแม่ของหนู ท่านมีอาการปากเบี้ยวนิดหน่อย เลยไปพบคุณหมอทางด้านสมองค่ะ คุณหมอวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ปากเบี้ยว (นิดหน่อย) ความดันสูง ว่าน่าจะเป็นเส้นเลือดในสทองตีบ ท่านก็เลยส่งต่อไป X-ray คอมพิวเตอร์สมอง (หนูไม่แน่ใจว่า มันคือ MRI หรือเปล่า) จากนั้นก็นำฟิล์มมาให้คุณหมอท่านเดิมดู ท่านก็ยืนยันคำวินิจฉัยว่า เป็นโรคเส้นเลือดฝอยในสมองตีบ แบะจ่ายยามาให้คุณแม่ทานค่ะ คุณแม่บอกว่า คุณหมอท่านให้ทานยาเฉย ๆ ไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัด (หนูถามคุณแม่ไป ว่าต้องรักษาแบบผ่าตัดหรือเปล่า)... จากข้อมูลทั้งหมด หนูมีคำถามอยากจะปรึกษาคุณหมอดังนี้ค่ะ

1) การ X-ray computer สมองนี่ มันมี MRI อย่า่งเดียวหรือเปล่าคะ

2) การเป็นโรคเส้นเลือดฝอยในสมองตีบ สามารถเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ ที่นอกเหนือจาก ภาวะความเครียด คอเรสตอรอลสูง น้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน) เป็นต้น

ปล. คุณแม่เคยตรวจเจอว่าความดันโลหิตสูงด้วยค่ะ

3) โรคนี้มันรุนแรงมากมั้ยคะ และจะสามารถรักษาหายขาดได้มั้ยคะ

4) ในเรื่องของการรักษาโรคนี้ จะต้องมีอาการถึงขั้นไหนคะ คุณหมอถึงจะตัดสินใจให้คนไข้ได้รับการผ่าตัดรักษา

5) สำหรับในคนไข้ ที่เริ่มมีอาการเหล่านี้แล้ว มีความเป็นไปได้แค่ไหนะคะ ที่อาการของโรคจะไม่รุนแรงขึ้น เช่น มีการตีบที่เส้นอื่น หรือเส้นเลือดแตก เป็นต้น

6) ถ้าต้องให้คะแนนความรุนแรงของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ การเป็นโรคเส้นเลือดฝอยตีบ ดีกรีมันจะได้คะแนนประมาณเท่าไหร่ได้คะ ถ้ารุนแรงขั้นสุดคือ 10 ..

7) คนไข้ที่เป็นโรคนี้แล้ว จำเป็นต้องพบแพทย์เป็นประจำ อย่างสมำ่เสมอมั้ยคะ ถ้าใช่ ควรจะมีระยะเวลาเท่าไหร่ที่เหมาะสมคะ

8) คนไข้ที่เป็นโรคนี้แล้ว ควรจะดูแล รักษาตัวเองอย่างไร เพื่อให้มีการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคใหม่ หรือโรคเพิ่มความรุนแรงขึ้นค่ะ

9) ถ้าคุณหมอมีคำแนะนำ หรือข้อควรระวังอย่างไร ในการดูแลคนไข้ที่เป็นโรคนี้ หรือประเด็นอื่นที่หนูไม่ได้คำนึงถึง รบกวนคุณหมอแนะนำด้วยค่ะ

... ขอโทษนะคะ ที่ถามซะหลายคำถามเลย พอดีหนูไม่ได้อยู่กับคุณแม่น่ะค่ะ เลยไม่ได้พาคุณแม่ไปพบคุณหมอ ตอนท่านไปตรวจ พอสอบถามท่าน ก็พบว่ายังมีข้อมูลอีกหลายอย่างที่หนูอยากจะเข้าใจโรคนี้ให้มากขึ้น อีกอย่างหนูลอง  search ดูอาการทาง internet ก้อจะได้ข้อมูลทั่วไปที่ค่อนข้างเหมือนกัน ซึ่งก็ยังไม่ตอบคำถามในส่วนที่หนูอยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม ยังไงรบกวนคุณหมอด้วยนะคะ .. ขอบคุณมากค่ะ.. :)

อายุ: 55 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 72 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

23 ตุลาคม 2555 02:39:55 #2

ตอบคุณเป็นข้อๆตามที่ถามมา ดังนี้

 

  1. เอกซเรย์สมอง มีได้ทั้ง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และเอมอาร์ไอ ถ้าคุณอยากทราบว่าทั้ง 2 เครื่อง/การตรวจ ต่างกันอย่างไร แนะนำให้เข้าไปอ่านบทความทั้ง 2 เรื่องในเว็บ haamor.com คือ เรื่อง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และ เรื่อง เอมอาร์ไอ แต่บางครั้งในบางโรค เช่น โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง แพทย์อาจตรวจเพิ่มเติมด้วยการฉีดสีตรวจหลอดเลือดสมอง (Cerebral angiogram)

  2. สาเหตุที่พบได้บ่อย คือ สาเหตุทั้งหมดที่คุณเล่ามาคะ

  3. จัดเป็นโรครุนแรง เพราะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต การรักษาให้หลอดเลือดหายตีบเป็นไปได้ยาก แต่การรักษาจะช่วยให้สมองได้รับเลือดอย่างเพียงพอ จึงลดโอกาสเกิด อัมพฤกษ์ อัมพาต ได้

  4. การผ่าตัดจะทำต่อเมื่อมี หลอดเลือดแตก และก่อให้เกิดภาวะเลือดคั่งอย่างมากในสมอง โดยผู้ป่วยอาจ ปวดศีรษะอย่างมาก ซึม สับสน หรือ โคม่า

  5. เป็นไปได้ แต่โอกาสที่คุณแม่คุณจะเกิดหรือไม่ คุณต้องถามแพทย์ที่รักษาคุณแม่ เพราะขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ความรุนแรงของสาเหตุ การรักษาควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุได้หรือไม่ เป็นต้น

  6. คุณต้องถามแพทย์ผู้รักษาคุณแม่ จึงจะพอประมาณได้คะ เพราะต้องขึ้นกับว่า เป็นหลอดเลือดที่เลี้ยงสมองส่วนใด และตีบกี่หลอดเลือด แต่ละหลอดเลือดตีบกี่% รวมทั้งความรุนแรงของโรคที่เป็นสาเหตุ

  7. พบแพทย์ตรงตามแพทย์นัดเสมอ แต่ถ้ามีอาการเลวลง หรือมีอาการผิดปกติไปจากเดิม หรือ กังวลในอาการ ก็ต้องรีบพบแพทย์ก่อนนัด

  8. การดูแลตนเองที่สำคัญ คือ ปฏิบัติตามแพทย์ พยาบาลที่ให้การดูแลรักษาแนะนำ ควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุให้ได้ กินยาตามแพทย์แนะนำให้ถูกต้อง ครบถ้วน ไม่ขาดยา

  9. แนะนำคุณอ่านบทความเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com เรื่อง โรคหลอดเลือดสมอง และแนะนำคุณ คุณแม่ และคนดูแลคุณแม่ จดคำถาม ข้อสงสัย ที่อยากถามแพทย์ผู้รักษาเอาไว้เสมอ เมื่อพบแพทย์จะได้ถามได้รวดเร็ว ครบที่ต้องการทราบ เพื่อจะได้คำตอบที่เหมาะสมกับคุณแม่ เพราะการตอบคำถามทางเว็บตอบได้เพียงกว้างๆ ไม่สามารถให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงได้คะ

 


พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

 

Emmy*****y

19 พฤศจิกายน 2555 19:06:55 #3

หนูขอขอบคุณ คุณหมอ พวงทอง มากนะคะสำหรับข้อมูลค่ะ เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ หนูจะไปอ่านบทความตามที่คุณหมอแนะนำนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ :)