กระดานสุขภาพ

ทำไมอยู่ดีๆก็ฉี่เหม็นขึ้นมา ทั้งๆที่ไม่เคยมีกลิ่นมาก่อน(กลิ่นเหมือนคนที่เพิ่งทานยา)
Jess*****a

17 ตุลาคม 2555 14:38:46 #1

มันเป็นมาได้ซัก 2 อาทิตกว่า ๆ ละครับก่อนหน้านั้นผมไม่สบายก็กินยา พาลา พอฉี่เสร็จมันจะรู้สึกแสบที่ท่อปัสสาวะ (ส่วนปลาย)แล้วมันเหม็นครับ และพอหายจากไข้แล้วก็หยุดกินยา มันก็ยังไม่หาย พอช่วงหลัง ๆ (จนถึงปัจจุบัน)มันก็จะเป็นช่วงตืนนอนกลิ่นมันก็อ่อน ๆ ลงไปบ้างและอาการแสบก็หายไปครับ ผมกังวลมาครับจะเป็นอะไรมากป่าวครับ

ปกติมันจะเป็นเฉพาะตอนช่วงไม่สบายแล้วกินยาหนักๆครับ

แล้วก็ช่วงนี้ผมกินวิตามินซีขนาด 25 มิลลิกรัม วันละ 8-10 เม็ด(เป็นวิตามินซีสำหรับเด็กที่ขาดวิตามิน)มันจะเกียวกับ ฉี่ ของผมไหมครับ

อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 58 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Jess*****a

17 ตุลาคม 2555 14:42:57 #2

***ขอต่อท้ายอีกครับ***

 

ไม่มีอาการเจ็บแสบตรงไหนเลยครับกดดูก็ไม่เจ็บอะไรครับ แล้วก็ฉี่ไม่มีสีผิดปกติใด ๆ

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

18 ตุลาคม 2555 02:40:05 #3

ปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติมีสาเหตุได้ทั้ง จากที่ไม่ใช่โรค และจากโรค
สาเหตุที่ไม่ใช่โรค ที่พบบ่อย คือ

  • จากอาหาร และเครื่องดื่มที่บริโภค
  • จากภาวะดื่มน้ำน้อย/ภาวะขาดน้ำ
  • จากยาทุกชนิดโดยเฉพาะจากวิตามินที่บริโภคซึ่งรวมทั้ง กิน ฉีด และยาทา (ซึ่งเข้าได้กับอาการของคุณ)


สาเหตุจากโรค ที่พบได้บ่อย คือ

  • โรคไต
  • โรคตับ
  • โรคเบาหวาน
  • โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  • โรคการอักเสบติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งไม่น่าใช่เป็นสาเหตุในกรณีคุณ


กรณีคุณ กลิ่นปัสสาวะอาจเกิดจาก วิตามิน ซี ที่กินอยู่ หรือ ดื่มน้ำน้อย ซึ่งรวมถึงเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำที่เสียไป เช่น จากเหงื่อ จากปัสสาวะบ่อยขึ้น เช่น อยู่ในที่มีอากาศเย็น หรือดื่มเครื่องดื่มมีกาเฟอีน (เช่น ชา กาแฟ) หรือจากชนิดของอาหาร (ลองสังเกตดู)

คำแนะนำ: คุณควรดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น (ถ้าไม่มีโรคที่แพทย์ให้จำกัดน้ำดื่ม) ให้พอดีกับน้ำที่เสียไป อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยขับสารต่างๆที่ก่อกลิ่นให้ออกจากร่างกายทางปัสสาวะเร็วขึ้น และ/หรือ ลองหยุดกิน วิตามินซี ดู 3-4 วัน ถ้ากลิ่นหายไปก็จะรู้สาเหตุ

แต่ถ้าคุณมีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะแสบ ขัด ขุ่น มีไข้ ปวดท้องน้อยก็ควรพบแพทย์ เป็นแพทย์ทั่วไปได้ หรือถ้าอายุเริ่มเข้าวัย 25-30 ปี แล้ว ก็ควรตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะการตรวจน้ำตาลในเลือดดู โรคเบาหวาน ตรวจการทำงานของไต และของตับ ก็เป็นเรื่องดี ไม่เสียหาย มีแต่ได้ประโยชน์ (ยกเว้น เสียเวลา และมีค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำให้กับตนเองคะ)


บรรณานุกรม
http://www.mayoclinic.com/health/urine-odor/MY00378/DSECTION=causes [2012, Oct 18]

 

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์