จากอาการที่เล่ามา หมอไม่สามารถตอบได้คะว่าน้องคุณเป็นโรคอะไร เพราะจำเป็นต้องได้ตรวจร่างกายน้องก่อน และอาจต้องมีการตรวจอื่นๆเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด ดังนั้น คุณหมอที่ดูแลน้อง และคุณแม่เท่านั้นที่จะตอบคุณได้ว่าน้องเป็นโรคอะไร

การจะให้กำลังใจน้องเป็นเรื่องที่ดีมากคะ แต่การพูดคุยกับน้องในเรื่องโรคของน้อง อาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้ จึงอาจเป็นผลลบกับน้องมากกว่าผลบวกก็ได้ คุณควรปรึกษาคุณแม่ว่า ควรจะดูแลและให้กำลังใจน้องอย่างไร จะเหมาะสมกว่าคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

งั้นหนูควรทำยังไงคะ เพื่อจะดูแลน้อง และให้กำลังใจน้อง หนูไม่รู้ก็ได้ค่ะเรื่องว่าน้องเป็นโรคอะไร แต่ตอนนี้หนูเป็นห่วงน้องมากกว่าค่ะ

และหนูก็ไม่ได้คุยกับน้องด้วยนะคะว่าน้องเป็นโรคอะไร หนูอยากรู้เองค่ะ ซึ่งหนูคิดว่าน้องก็อยากรู้ เพราะว่าพอน้องกินยาทีไร มักจะมีอาการหลายๆอย่าง (หนูจำไม่ได้ค่ะ)

ซึ่งบางครั้งน้องก็แอบไม่กินยา หนูเลยกลัวว่า มันจะยิ่งอันตรายน่ะค่ะ

แม้ว่าหนูรู้ หนูก็ไม่บอกน้องแน่นอนค่ะ

สรุปว่า ตอนนี้หนูควรจะทำยังไงต่อไปคะ

ขอบคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์ มากๆเลยนะคะ

การดูแลน้องที่สมควรที่สุด คือ เรียนปรึกษาคุณแม่ว่า คุณอยากช่วยดูแลน้อง ให้คุณแม่ช่วยแนะนำว่า คุณควรทำอย่างไร ทั้งในด้านการดูแลน้อง และในการช่วยแบ่งเบาภาระคุณแม่

นอกจากนั้น คือ มีเวลาให้น้องมากขึ้น พูดคุยเป็นเพื่อนกับน้องให้มากขึ้น และถามน้องว่า อยากให้คุณช่วยอะไรบ้าง ซึ่งถ้าไม่ขัดกับคำแนะนำของคุณแม่หรือของคุณหมอ คุณก็ช่วยน้องได้ตามนั้น แต่ถ้าความต้องการของน้องขัดกับคำแนะนำของคุณแม่ หรือของคุณหมอ เช่น ไม่กินยา คุณก็ควรพูดคุยถามน้องถึงเหตุผล และพูดคุยให้กำลังใจ ให้น้องทำตามคำแนะนำของคุณแม่และของคุณหมอคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^^