กระดานสุขภาพ

เส้นเลือดขอดที่อัณฑะ
Anonymous

7 พฤษภาคม 2563 08:38:10 #1

ผม เพศชาย อายุ 25 ปี เคยมีประวัติเคยผ่าตัดเพื่อรักษาโรคเส้นเลือดขอดที่อัณฑะเมื่อ 2- 3 ปีที่แล้วครับ หลังจากผ่าตัด อาการปวดเริ่มดีขึ้น และปัสสาวะเริ่มดีขึ้น แต่ก็จะมีเป็นช่วงๆ ที่มีอาการปวด หน่วงเล็กน้อย ปัสสาวะขัด แต่ช่วงนี้รู้สึกว่ามีอาการปวดค่อนข้างนานและมีปัสสาวะขัดบ่อบครั้ง เลยอยากสอบถามว่าอาการดังกล่าวคือเส้นเลือดกลับมาขอดอีกครั้งรึเปล่าครับ โรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหมครับ การมีเพศสัมพันธุ์ด้วยตัวเอง หรือกับผู้อื่นมีผลต่อโรคตัวนี้ไหมครับ และเบื้องต้นควรปฏิบัติตัวอย่างไรหรอครับ รบกวนด้วยครับ (ไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์กับผู้อื่นแต่เคยมีด้วยตัวองครับ)

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 183ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.90 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

9 พฤษภาคม 2563 05:08:07 #2

มีการศึกษาพบว่า เส้นเลือดขอดอาจเป็นสาเหตุของการเป็นหมันหรือมีลูกยากในผู้ชายประมาณ 14% และพบว่าการผ่าตัดสามารถช่วยให้การทำงานของลูกอัณฑะดีขึ้นได้ แต่ไม่ทุกคน โดยพบว่าประมาณ 60% มีจำนวนและคุณภาพของตัวอสุจิดีขึ้น สาเหตุของเส้นเลือดขอดยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด แต่พบว่าการที่มีเส้นเลือดขอด จะทำให้เลือดไปเลี้ยงลูกอัณฑะผิดปกติ ออกซิเจนน้อยลง สารอาหารที่มาตามเลือดก็น้อยลงด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ตัวอสุจิน้อยและไม่แข็งแรง ในกรณีของคุณที่ผ่าตัดมาแล้ว และมีอาการปัสสาวะขัด อาจจะเกิดจากการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะ และจากที่เล่ามาว่ายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ จึงไม่มีโอกาสที่จะติดเชื้อกามกโรค สาเหตุของการอักเสบจากเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น เส้นเลือดขอดไม่น่าจะเป็นสาเหตุของการอักเสบ ในเบื้องต้น แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือมีเลือดปนในน้ำปัสสาวะ ให้รีบหาหมอยูโรหรือหมอที่คุณเคยไปผ่าตัด อาจจะต้องมีการตตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุต่อไปครับ

Anonymous

9 พฤษภาคม 2563 07:00:41 #3

ขอบคุณครับ คุณหมอ ขอสอบถามเพิ่มเติมหน่อยครับ พอดีสงสัยว่าการมีเพศสัมพันธ์ (ด้วยตัวเองหรือกับคนอื่น) มันมีผลต่อเส้นเลือดขอดไหมครับ พอดีหลังการมีเพศสัมพันธ์ด้วยตัวเองแล้ว จะรุ้สึกมีอาการปวดหน่วงๆ ปัสสาวะขัดเล็กน้อยทุกครั้งเลยครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

10 พฤษภาคม 2563 14:03:58 #4

การช่วยตัวเองถือเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ถ้าการช่วยตัวเองที่ไม่บ่อย เช่นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จากการศึกษาไม่พบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพหรือเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ในบางรายที่มีการช่วยตัวเองที่บ่อย เช่น วันละหลายครั้งหรือทุกวัน และทำติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจมีผลทางด้านจิตใจ เป็นคนเสพติดการช่วยตัวเอง เวลามีการร่วมเพศจริงๆกับผู้หญิง อาจจะเกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือการหลั่งเร็วหรือหลั่งก่อนการสอดใส่ก็ได้ นอกจากนี้ถ้าถ้ามีการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป และรุนแรง นานเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะและเนื้อเยื่อรอบๆอวัยวะเพศ เกิดอาการปัสสาวะบ่อย แสบขัดเล็กน้อย ปวดท้องน้อยและหน่วงที่ลูกอัณฑะ ในกรณีที่ถ้ามีเซ็กส์กับคู่นอน ถ้าคู่นอนมีโรคติดต่อทางเพศ เช่นหนองในหรือหนองในเทียม ก็จะมีโอกาสรับเชื้อได้ ถ้ามีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอระบบทางเดืนปัสสาวะได้ครับ