กระดานสุขภาพ

จี้หูดหงอนไก่
Anonymous

6 พฤศจิกายน 2562 17:39:39 #1

ผมได้เป็นโรคหูดบริเวณปากท่อปัสสาวะครับ ผมได้ไปหาหมอยูโรแล้ว ได้ทำการตรวจโรค hiv ซีฟีลิส ตับอักเสบ b,c เรียบร้อย ผลเป็นปกติครับ ไม่ได้ติดเชื้ออะไร แต่ทางรอยโรคของหูดบริเวณปากทางปัสสาวะ หมอวินิจฉัยว่าจะทำการจี้ด้วยไฟฟ้า ซึ่งผมเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก ทั้งกลัวเจ็บ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากลัวผลข้างเคียงของการรักษาคืออาจทำให้ท่อปัสสาวะตีบได้ ซึ่งผมไปอ่านๆมามันค่อนข้างยุ่งย่างในการรักษาและรักษาให้เป็นปกติดังเดิมยาก ผมมีคำถามครับ

1.หากจี้ไฟฟ้าฉีดยาชา จะเจ็บมากไหม และหลังจากหมดฤทธิ์ยาชา ผมจะเจ็บจากบาดแผลมากไหม และผมจะมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวไหมครับ

2.หากผมจี้ไฟฟ้า ผมจะหายขาดเลยไหม หรือเปอร์เซ็นกลับมาเป็นซ้ำมากน้อยเพียงใดครับ มันอยู่ตรงเนื้อเยื่อบุซึ่งมันอ่อนผมไม่อยากทำการจี้บ่อยๆ

3.หากทำการจี้โอกาสเกิดผลข้างเคียงสูงมากไหมครับ หูดขึ้นบริเวณปากท่อปัสสาวะ มันจะเกิดการเปล่งบวมจนทำให้เกิดท่อปัสสาวะตีบไหมครับ หากตีบแล้ววิธีการรักษาจะสามารถทำให้กลับมาเป็นดังเดิมได้ไหม

4.วิธีรักษานอกจากจี้ไฟฟ้าแล้วสามารถทำอย่างอื่นที่ปลอดภัยไม่เสี่ยงแบบนี้จะมีบ้างไหมครับ หากผมไม่ทำการจี้ ก็คงจะไม่หายเสียที แต่ผมคิดมาจริงๆกับผลกระทบ ช่วยตอบหน่อยนะครับ หูดผมเป็นไม่เยอะครับ ไม่ได้เยอะมาก ก่อนหน้านี้เคยใช้โพโดไฟลินจี้ด้วยตัวเอง มันยุบครับ แต่มันใช้เวลาหน่อย เพราะมันไม่ค่อยติดครับ มันมีสารคัดหลั่งตลอดเวลา
อายุ: 83 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 82 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.78 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

6 พฤศจิกายน 2562 17:51:29 #2

เพิ่มเติมเล็กน้อยครับ 5. หากจี้เสร็จแล้วจะท่อปัสสาวะตีบทันทีไหมครับ และหลังจี้ผมจะแข็งตัวได้ปกติ และปัสสาวะได้ปกติไหมครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 พฤศจิกายน 2562 06:51:49 #3

  • หูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่พบได้บ่อยขึ้นเกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) การรักษาคือใช้ยา podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4-6 อาทิตย์ จี้หรือใช้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ ซึ่งจะฉีดยาชาเพื่อไม่ให้เจ็บเวลาจี้
  • สำหรับคำถามที่ถามมา ขอตอบรวมๆดังนี้ การจี้หูดในท่อปัสสาวะด้วยไฟฟ้านั้น ถ้ามีการฉีดยาชาก็จะไม่เจ็บ แต่เมื่อยาชาหมดฤทธิ์ก็อาจจะรู้สึกเจ็บบริเวณแผลที่ถูกจี้ด้วยไฟฟ้า ส่วนหลังจากจี้แล้ว อาจจะเกิดเป็นแผลเป็น ในกรณีที่มีหูดหลายแห่งและมีขนาดใหญ่ ต้องจี้หลายจุด ก็อาจจะเกิดท่อปัสสาวะตีบได้ อาจจะต้องมีการใช้เครื่องมือถ่างท่อปัสสาวะให้หายตีบหรือตีบน้อยลง ถ้าในการจี้สามารถจี้หูดจนหมด และไม่มีการรับเชื้อใหม่ ก็น่าจะหายขาด ส่วนใหญ่ที่เกิดหูดใหม่เพราะอาจจะมีหูดที่อยู่ลึกเข้าไปในท่อปัสสาวะที่จี้ไม่หมด หรือมีการิดเชื้อใหม่ วิธีอื่นนอกจากที่กล่าวมาแล้ว อาจจะใช้การจี้เย็นเช่นใช้ไนโตรเจ็นเหสวเป็นต้น ผลการรักษาไม่ต่างกับการจี้ด้วยไฟฟ้า ประเด็นสุดท้ายคือโอกาสที่จะเกิดการตีบของท่อปัสสาวะนั้น มักเป็นในกรณีที่มีหูดอยู่ลึกเข้าไปในท่อปัสสาวะ และมีหลายที่หรือมีขนาดใหญ่ ต้องจี้ลึก ทำให้เกิดแผลเป็น รักษาโดยการถ่างท่อปัสสาว ส่วนถ้ามีเฉพาะที่ปลายท่อตรงบริเวณรูเปิด มักจะไม่มีการตีบ โดยสรุป ปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาและติดตามอย่างต่อเนื่องครับ
Anonymous

7 พฤศจิกายน 2562 07:08:07 #4

หากจี้ด้วย podophylin หรือ Ta จะมีโอกาสท่อปัสสาวะตีบไหมครับ ความเสี่ยงจะลดน้อยลงไหม และผมสามารถขอหมอได้ไหมครับ ผมกลัวความเสี่ยงจากการจี้ด้วยไฟฟ้าจริงๆ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

8 พฤศจิกายน 2562 07:38:12 #5

การใช้ยาจี้ตามที่ถามมา หลักการคล้ายกับการจี้ด้วยไฟฟ้าคือ ทำให้หูดหรือเชื้อไวรัสเอชพีวีตายหรือหลุดจากบริเวณผิวหนังที่เป็น เพราะฉะนั้นจะมีแผลเป็นได้เช่นเดียวกัน แต่อาจจะน้อยกว่าการจี้ด้วยไฟฟ้า แต่ผลการรักษาก็สู้การจี้ด้วยไฟฟ้า คุณสามารถปรึกษากับหมอที่รักษาเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยครับ