กระดานสุขภาพ

ตุ่มคันขึ้น แบบนี้ เกิดจากอะไรครับ
Anonymous

28 กันยายน 2562 15:21:32 #1

ส่วนตัวผมเป็นโรคภูมิเเพ้ อากาศ กับ ผิวหนัง อยู่เเล้ว เเต่ครั้งนี้ ขึ้นมาพร้อมกัน3ที่ 1.ที่เเขนซ้าย 2.บริเวณต้นขา ใกล้ขาหนีบ 3.ตรงหน้าเเข้ง เเละมีอาการปวด ที่รักเเร้ คล้ายๆปวดกล้ามเนื้อ ปวดไม่มาก เเละมีอาการเเสบที่รักเเร้ช่วงเหงื่อออก ปกติ ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ตอนมีเพศสัมพันธ์ แต่ผมก็ยังกลัวๆ ว่าจะติด hiv มันใช่อาการเริ่มต้น ของ hiv หรือเปล่าครับ หรือเป็นเเค่อาการเพ้อธรรมดา ใส่ถุงยางอนามัยตลอด เท่าที่สังเกตุ ไม่เคยมีเเตก มีหลุด มีโอกาส ติด hiv ไหมครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/1624c-48788-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/1624c-48788-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/1624c-48788-3.jpg

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 177ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.87 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

30 กันยายน 2562 00:12:39 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นตุ่มเล็กๆ แต่เนื่องจากมีขนาดเล็ก ไม่สามารถเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้งตามที่คุณเล่ามา ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเกิดจาก 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ 2. แพ้หรือระคายเคืองสารที่สัมผัส ทำให้คันและเกาจนเป็นผื่น รักษาโดยกินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้าเย็น ทายาแก้แพ้ เช่น betamethasone ในกรณีของคุณที่มีประวัติแพ้มาก่อน ก็อาจจะมีสาเหตุจากการแพ้ได้ 3. เชื้อรา มักจะพบในคนที่มีเหงื่อออกมาก เช่นนักกีฬา หรือคนที่ทำงานกลงแจ้ง ใส่ชุดที่อับชื้น รักษาโดยการใช้ยาทาหรือยากินเชื้อรา เช่น clotrimazoleหรือ Iitraconazole ใช้เวลาประมาณ 4-6 อาทิตย์ ก็จะหาย เมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขอนามัย เช่นอาบน้ำเช้าเย็น ใส่ชุดชั้นในที่แห้งและสะอาด ถ้าชุดชั้นในอับชื้นหรือมีเหงื่ออก ต้องรับอาบน้ำและเปลี่ยนชุดโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นอีก 4. โรคผิวหนังอื่นๆ สำหรับเรื่องการติดเชื้อเอชไอวีนั้น คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ โดยสรุป จากประวัติการใช้ถุงยางและผื่นตามที่ส่งมา น่าจะเป็นโรคผิวหนัง แนะนำหาหมอครับ

Anonymous

30 กันยายน 2562 04:31:33 #3

สอบถามเพิ่มเติมครับ เเละอาการปวดที่ รักเเร้เเละเเถวนม คล้ายๆปวดล้ามเนื้อ ปวดไม่มาก เเละอาการเเสบ ที่รักเเร้ เวลาเหงื่อออก นี้เกิดจากอะไรครับ ลองคลำดูเเล้ว ก็ไม่มีก้อนอะไรครับ
Anonymous

30 กันยายน 2562 04:42:23 #4

หรือมาจากความกังวล ของผมเอง
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

30 กันยายน 2562 18:30:59 #5

อาการปวดกล้ามเนื้อตามตัวรวมทั้งการแสบที่รักแร้อาจจะมีสาเหตุได้หลายอย่าง และก็อาจจะเกิดจากความวิตกกังวล ความเครียด ถ้าอาการยังเป็นอยู่หรือเป็นมากขึ้น แนะนำหาหมอ ส่วนเรื่องการกังวลหรือความกลัวที่จะติดเชื้อเอชไอวีนั้น ถ้าไม่สบายใจและยังไม่เคยตรวจเลือด แนะนำให้ใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ