กระดานสุขภาพ

อวัยวะเพศผมเป็นแบบนี้ครับ
Sorn*****0

28 มิถุนายน 2562 04:01:05 #1

มันเป็นอะไรหรอครับ ผมพึ่งสังเกตุถุงกาแฟน้อยผมมันเหมือนเป็นค้อเลือดรูปผิวหนังที่เห็นมันเป็นตุ่มเหมือนหูด ,สิวและน้องชายมีอะไรสักอย่างตามภาพครับ
ไปตรวจที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 6/6/62 มาไม่ได้เป็นโรคhiv
มีเพศสัมพันล่าสุดเมื่อ3เดือนที่แล้วรึอาจนานกว่านั้น
สิ่งที่เปลี่ยนไปเริ่มตั้งแต่หลังสงการณ์เกือบสิ้นเดือน
1.กินน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นช่วงนึงเพื่อให้ถ่ายและลดน้ำหนัก
1.2 น้ำหนักลดจาก82 เหลือ76-77 ประมาณ5 กก.ใน1เดือน ช่วงนั้นท้องจะไวถ่ายเหลวและมันๆมีกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนกุ้ง
2.อิ่มง่าย มื่อเย็นกินข้าวบางกินอย่างอื่นบาง
3.กินยาบำรุงเห็ดถั่งเช่า
4.มีความเครียดสะสม บางครั้งลเวลาทานอาหารเหมือนจะมีกรดไหลย้อนดันสวน
5.รูปตุ่ม ตามผิวพึ่งเกิดขึ้นได้ไม่เกิน30 วันบางครั้งก็คันโดยไม่มีได้อะไรส่วนใหญ่จะใต้ร่มผ้าตามตัวแล้วก็หายแบบยุบยิบผมเดาทีเครื่องซักผ้า หมวกกันน็อก และที่นอน เสื้อผ้าที่ใส่รึอะไรและอีกอย่างผมเป็นคนนอนไม่ใส่เสื้อผ้า เลยตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกเครียดมาก
6.ตลอดระยะเวลา1เดือนกว่าเกือบ2เดือนผมขี่มอไซมาทำงาน ตลอด
นอนรู้สึกไม่เต็ม

อายุ: 32 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 76 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.61 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Sorn*****0

28 มิถุนายน 2562 04:14:31 #2

ตอนนี้ มีอาการคันตามตัวยุบยิบและก็เรื่องถ่ายตอนนี้ปกติแล้วเลยไม่แน่ใจตนเองเป็นอะไรกลัวจะเป็นซิฟิริคไม่ก็อะไรสักอย่างผมเลยเครียด T^T 

Haamor Admin

(Admin)

28 มิถุนายน 2562 06:27:33 #3

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

29 มิถุนายน 2562 07:23:56 #4

  • อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยง
  • ประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ในกรณีของคุณที่เสี่ยงมาเกิน 3 เดือน ผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อแน่นอน ไม่มีโอกาสที่ร่างกายจะติดเชื้อโดยไม่มีการสร้างแอนติบอดี อาการต่างๆที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น หรือเกิดจากความกังวล ความเครียด กลัวว่าจะติดเชื้อ เป็นต้น ถ้ายังไม่ได้ตรวจเรื่องซิฟิลิส แนะนำให้ตรวจเลือด เช่น RPR หรือ VDRL หรือ TP สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ ส่วนรูปที่ส่งมา ตุ่มเล็กๆที่ขึ้นรอบๆส่วนหัวของอวัยวะเพศ เรียกว่า pearly penile papules เป็นต่อมที่ขึ้นได้ตามธรรมชาติ จะมีขนาดต่างกัน ในบางคนอาจเล็กมากจนสังเกตุ
  • ไม่เห็น แนบางคนอาจใหญ่และมีตั้งแต่ 1-3 แถว ดูเหมือนเป็นหูดหงอนไก่ ต่อมเหล่านี้ถือว่าเป็นปกติ ไม่ต้องกังวลหรือรักษาแต่อย่างไร ในกรณีที่ใหญ่มากจนมองแล้วไม่สวย มีการใช้เลเซอร์ลบให้เล็กลง แต่ก็อาจเป็นใหม่ได้ ส่วนตุ่มที่อยู่เป็นกลุ่มที่หนังอวัยวะเพศ อาจจะเป็น ต่อมไขมันที่เรียกว่า Fordyce spot ซึ่งเป็นตุ่มที่เกิดจากต่อมไขมัน หรือต่อม sebaceous glands ซึ่งปกติจะอยู่ร่วมในรูขน แต่ในกรณีนี้อยู่นอกรูขน แต่อยู่ที่ผิวหนังแทน โดยยังไม่รูสาเหตุ แต่ไม่เป็นอันตราย บางคนอาจจะค่อยๆจางลงเองได้
  • บางรายอาจอยู่ได้เป็นเดือน ปี โดยไม่มีอันตรายแต่อย่างไร ในรายที่เป็นมาก อาจลองใช้เลเซอร์ให้จางลงได้ แต่ผลการรักษาไม่แน่นอน อาจเป็นใหม่อีกได้ โดยสรุป ไม่ได้ติดเชื้อเอดส์ ตุ่มตามรูปที่ส่งมาเป็นตุ่มที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ถ้ายังมีความกังวล แนะนำปรึกษาจิตแพทย์ครับ
Sorn*****0

7 กรกฎาคม 2562 07:53:52 #5

ขอบคุณมากเลยครับคุณหมอผมไปตรวจเพิ่มมาแล้วครับ ผมมีเชื่อเริมในเลือดครับ แต่จุดๆตรงนั้นมันไม่ได้เป็นอะไร แบบนี้ต้องรับยาเรื่องเริมไหมครับ
Sorn*****0

7 กรกฎาคม 2562 09:08:51 #6

เพิ่มมีจุด แดง เหมือนโดนยุงกัด เล็กมากๆ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้ทำความสะอาด ที่หัวตรงนั้น
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

8 กรกฎาคม 2562 05:42:14 #7

การที่ตรวจพบเริมในเลือดแสดงว่าคุณเคยสัมผัสเชื้อเริมและอาจจะเคยเป็นเริมมาแล้ว แต่ตุ่มตามรูปที่ส่งมาไม่ใช่เริม จึงไม่จำเป็นต้องกินยารักษาเริม อย่างไรก็ตาม เริมจะเป็นโรคที่เป็นๆหายๆ การรักษานั้นจะให้ต่อเมื่อเริ่มมีตุ่มน้ำใสๆหรือเมื่อเป็นแผลเริม โดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์

Sorn*****0

10 พฤศจิกายน 2562 13:53:08 #8

ขอบคุณคุณหมอมากเลยครับอันนี้ผมภาพล่าสุดที่จะให้ดูครับ มันเป็นตุ่มเล็กเกือบจะไม่เห็น รอบปากและก็รูปัสสวะมีลอยช้ำเวลาเข้าห้องน้ำมันจะฉีไม่สุดแบบมี2ก๊อก -.- 

Sorn*****0

10 พฤศจิกายน 2562 13:59:02 #9

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 พฤศจิกายน 2562 05:53:24 #10

ดูจากรูปที่ส่งมาเพิ่มเติม อยู่ในเกณฑ์ปกติ ถ้าคุณไม่ได้มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติม ก็ไม่มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศหรือกามโรค ปรเด็นเรื่องปัสสาวะอาจจะเกิดจากการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะ ถ้าเป็นมากขึ้น แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ