กระดานสุขภาพ

ไวรัสตับอักเสบซี
Anonymous

13 มิถุนายน 2562 13:10:13 #1

รบกวนถามคุณหมอครับ1.ตรวจตับเสบบีสามารถตรวจได้หลังรับเชื้อมาแล้วนานเท่าไหร่2.การตรวจคัดกรองโรคติดต่อเช่น ซิฟิลิส หรือ hiv ถ้ารับรับเชื้อไวรัสตับเสบซีมาพร้อมกันหรือเป็นอยู่ก่อนแล้วจะทำให้ วินโดน์พรีเรี่ยลของ ซิฟิลิสและ hiv เพิ่มขึ้นจาก 90 วันหรือเปล่าครับ 3.เหมือนกับข้อสองครับถ้ารับเชื้อ ซิฟิลิส กับ hiv มาพร้อมกันจะทำให้ วินโดน์พรีเรี่ยลเพิ่มขึ้นจาก 90 วันหรือเปล่าครับ หรือมีปัจัยอื่นไหมครับที่อาจทำให้ตรวจคัดกรองไม่พบหลังจาก90ไปแล้ว
อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

14 มิถุนายน 2562 03:45:51 #2

  • 1. ตับอักเสบ บี มีระยะฟักตัวประมาณ 45-180 วัน โดยเฉลี่ย 60 -90 วัน เร็วที่สุด 2 สัปดาห์ นานที่สุด 6-9 เดือน
  • 2. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ไม่มีผลต่อระยะเวลาการตรวจเชื้อเอชไอวีหรือซิฟิลิส
  • 3. การติดเชื้อซิฟิลิสและเอชไอวีพร้อมกัน ต่างก็ไม่มีผลต่อระยะเวลาของการตรวจของเชื้อทั้งสองตัวเช่นเดียวกัน
Bomb*****b

14 มิถุนายน 2562 13:49:14 #3

แล้วการอมยาฆ่าเชื้อแก้เจ็บคอขณะเจาะเลือดตรวจหล่ะครับคุณหมอมีผลต่อการตรวจไหมครับ ขอโทดที่ถามคำถามแบบนี้นะครับ ผมตรวจ hiv และ ซิฟิลิส หลัง 90 วันมาแล้วครับผลเป็นลบ ผมแค่อยากอยากสบายใจว่าผมปลอดภัยแล้วจริงๆครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

15 มิถุนายน 2562 03:50:17 #4

การอมยาฆ่าเชื้อไม่มีผลต่อการตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิส ยาที่อาจจะมีผลคือยาในกลุ่มที่ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ เช่น ยากดภูมิที่แพทย์ใช้สำหรับคนไข้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ ยาฆ่าเชื้อไวรัสต้านเอดส์หรือคนไข้ที่มีภูมิต่ำจากโรคประจำตัว เช่น มะเร็ง โรคเลือดเป็นต้น ในกรณีของคุณ ผลการตรวจเอดส์และซิฟิลิสที่ 90 วันหลังเสี่ยงเป็นลบ และถ้าไม่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม แสดงว่าไม่ติดเชื้อครับ

Bomb*****b

16 มิถุนายน 2562 15:03:21 #5

ขอบคุณมากๆครับคุณหมอ
Anonymous

17 มิถุนายน 2562 16:41:47 #6

คุณหมอครับผมขออึกคำถามหนึ่งผมจิตตกมากครับตอนนี้ เริ่มแรกหลังจากเสี่ยงมาสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจไปตรวจคือผมมีอาการปวดตามข้อซึ่งเข้าข่ายอาการของซิฟิลิส ผมจึงไปตรวจ rpr มาทั้งหมด 3 ครั้ง ตรวจที่ 81,90,112 วันหลังเสี่ยง และตรวจ hiv มา2ครั้ง ตรวจที่ 57 และ 90 วันหลังเสี่ยง ผลเป็นลบทั้งหมด ผมก็สบายใจอยู่พักหนึ่งแต่สิ่งที่ทำให้ผมกลับมาจิตตกอีกครั้งคือ อาการปวดตามข้อของปมไม่หายซักที เป็นๆหายๆมา 2 เดือนแล้ว ซึ่งเข้าข่ายโรคของรูมาตอยด์สาเหตุเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานผิดปกติและไปทำลายอวัยวะต่าง ๆ ขอถามนะครับ 1ถ้าผมเป็นรูมาตอยจริงๆจะมีผลต่อการตรวจ antibody ของซิฟิลิสและhiv หรือเปล่าครับ 2.ผมสามารถตรวจระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองว่าทำงานปกติไหมเพื่อปิดเคสของคัวเองได้ไหมครับ
Bomb*****b

18 มิถุนายน 2562 09:49:56 #7

การตรวจเม็ดเลือดขาวสามารถบอกได้ไหมครับว่าระดับภูมิคุ้มกันปกติไหมครับหรือผมควรตรวจอะไรเพื่อยืนยันว่าภูมิปกติครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

18 มิถุนายน 2562 16:44:22 #8

ตามที่ได้ตอบไปแล้วและจากรายละเอียดผลการตรวจเลือเอดส์และซิฟิลิสท่ีแจ้งเพิ่มเติมมา แสดงว่าคุณไม่ได้ติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิส ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยงเพิ่มเติมในภายหลังก็ไม่จำเป็นต้องตรวจเลือดอีก และไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิต้านทาน สำหรับเรื่องปวดข้อนั้น อาจจะมีสาเหตุจากโรคอื่นๆ ให้ปรึกษาหมอ หรืออาจจะเป็นจากภาวะความกลัวความเครียดทางด้านจิตใจ ทำให้ส่งผลต่อร่างกาย แนะนำให้ปรับสภาวะจิต หางานอดิเรก ออกกำลังกาย ถ้ายังมีความกังวลอยู่ ก็อาจจะต้องปรึกษาจิตแพทย์ครับ

Anonymous

20 มิถุนายน 2562 16:13:46 #9

ครับคุณหมอบางครั้งผมก็แอบด่าตัวเองเหมือนกันว่าทำไมยังไม่เชื่อในผลตรวจอีกแต่สมองผมมันหาเหตุผลมาโต้แย้งเสมอเลยครับยิ่งปวดจ้อด้วยเป็นผื่นขึ้นที่หลังด้วยทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น http://haamor.com/media/images/webboardpics/6ffce-48469-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/6ffce-48469-2.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/6ffce-48469-3.jpg ผมลืมเอารูปให้ดูครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

22 มิถุนายน 2562 12:03:04 #10

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นเป็นวงๆที่บริเวณส่วนหลัง สาเหตุ 1. เชื้อรา หรือเกลื้อน เกิดจากมีเหงื่ออกและความอับชื้น รักษาโดยการใช้ยาทาหรือยากินเชื้อรา เช่น clotrimazoleหรือ Iitraconazole ใช้เวลาประมาณ 4-6 อาทิตย์ ก็จะหาย เมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขอนามัย เช่นอาบน้ำเช้าเย็น ใส่ชุดชั้นในที่แห้งและสะอาด ถ้าชุดชั้นในอับชื้นหรือมีเหงื่ออก ต้องรับอาบน้ำและเปลี่ยนชุดโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นอีก 2. แพ้หรือระคายเคืองสารที่สัมผัส ทำให้คันและเกาจนเป็นผื่น รักษาโดยกินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้าเย็น ทายาแก้แพ้ เช่น betamethasone หรือ อาจจะเป็นทั้งแพ้และเชื้อราร่วมกัน แนะนำหาหมอ อาจจะต้องมีการขูดผิวหนังเพื่อดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ 3. โรคผิวหนังอักเสบจากสาเหตุอื่น แนะนำหาหมอผิวหนังครับ