กระดานสุขภาพ

การตรวจซิฟิลิสด้วยวิธี Dvrl และ rpr
Anonymous

31 พฤษภาคม 2562 13:24:56 #1

ขออนุญาติตั้งคำถามครับคุณหมอผมมีความเสี่ยงมาและได้ไปตรวจซิฟิลิสด้วยวิธี Dvrl และ rpr ที่ระยะเวลา90วันพอดีหลังเสี่ยงผลออกมาปกติ อยากจะรบกวนถามคุณหมอว่าผลตรวจของผมสามารถปิดเคสได้หรือยังครับหรือต้องรอเวลาให้นานกว่านี้ครับผม
อายุ: 28 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

31 พฤษภาคม 2562 13:27:21 #2

แล้วในกรณีที่ยังไม่สามารถยืนยันผลได้จริงๆผลตรวจของผมที่90 วันมีโอกาศเปลี่ยนมากไหมครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

1 มิถุนายน 2562 15:01:30 #3

ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) โดยทั่วไป ระยะฟักตัวของโรคซิฟิลิสคือ 10-90 วัน ในกรณีของคุณ ผลการตตรวจ VDRL และ RPR ที่ 90 วันหลังเสี่ยง ผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม มีการรายงานพบว่าในผู้ป่วยบางรายอาจจะให้ผลเลือดบวกที่นานกว่า 3 เดือนหลังเสี่ยง เช่น มีการกินยาแก้อักเสบบางชนิดที่มีผลต่อเชื้อซิฟิลิส มีการกินยาที่ลดภูมิต้านทาน เช่น สเตียร์รอยด์ เป็นต้น หรืออาจจะเป็นโรคที่ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เอดส์ เป็นต้น ถ้าคุณไม่ได้มีปัจจัยดังกล่าวก็ไม่ต้องตรวจซ้ำอีก ถ้ามีหรือไม่แน่ใจ อาจจะตรวจซ้ำอีกครั้งที่ 6 เดือนถึง 1 ปีหลังเสี่ยง สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคมได้ ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ

Anonymous

1 มิถุนายน 2562 18:12:56 #4

ขอรบกวนคุณหมออีกคำถามครับแล้วกรณีที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีอยู่ในกลุ่มโรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำไหมครับ ขอขอบคุณสำหรับคำตอบมากนะครับคุณหมอ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

2 มิถุนายน 2562 21:48:53 #5

การเป็นตับอักเสบบีไม่มีผลต่อการตรวจซิฟิลิสครับ