กระดานสุขภาพ
มีตุ่มเกิดที่อวัยวะเพศครับ | |
---|---|
15 พฤษภาคม 2562 17:22:39 #1 เป็นตุ่มใสๆมีภาพประกอบครับhttp://haamor.com/media/images/webboardpics/c2d71-48240-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/c2d71-48240-2.jpg เป็นตุ่มสีขาวขุ่นๆเป็นกลุ่มเดียวครับ ที่เหลือน้อยๆกระจายกันไม่ค่อยเยอะพึ่งสังเกตุเห็นครับไม่ทราบว่าเกิดขึ้นนานยัง แต่ไม่มีอาการคัน แสบ เลยลองสัมผัสดูแล้วก็เฉยๆเกาก็ไม่แตก |
|
อายุ: 17 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 176ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.21 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
16 พฤษภาคม 2562 10:43:11 #2 ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นตุ่มเล็กๆอยู่เป็นกลุ่มที่บริเวณหนังหุ้มอวัยวะเพศ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ตุ่มที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นต่อมตามธรรมชาติ เช่น ต่อมไขมันที่เรียกว่า Fordyce spot ซึ่งเป็นตุ่มที่เกิดจากต่อมไขมัน หรือต่อม sebaceous glands ซึ่งปกติจะอยู่ร่วมในรูขน แต่ในกรณีนี้อยู่นอกรูขน แต่อยู่ที่ผิวหนังแทน โดยยังไม่รูสาเหตุ แต่ไม่เป็นอันตราย บางคนอาจจะค่อยๆจางลงเองได้ บางรายอาจอยู่ได้เป็นเดือน ปี โดยไม่มีอันตรายแต่อย่างไร ในรายที่เป็นมาก อาจลองใช้เลเซอร์ให้จางลงได้ แต่ผลการรักษาไม่แน่นอน อาจเป็นใหม่อีกได้ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุง เที่ยวหญิงบริการ ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อ เช่นแผลเริม ซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir |
Anonymous |
16 พฤษภาคม 2562 11:06:39 #3
ขอโทษนะครับคุณหมอแต่ว่า น่าสุดผมเคยไม่ใช่ถุงแต่รีบเอาออกไม่ได้สำเร็จความใคร่อะไรเลยเพราะคิดได้ครับ แต่แปปเดียวก็เอาออกเลยครับ แล้วยาแอสไพรินช่วยลดอาการโรคเริมหรือไม่ครับ ยังไม่มีเงินพอที่จะไปพบแพทย์ครับอาจใช้เวลา 14-15 วันในการเก็บตังจะเสี่ยงไหมครับ เพราะผมเองไม่ได้มีไข้อะไรเลยแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นอะไรกันแน่ครับ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
17 พฤษภาคม 2562 16:15:20 #4 ตามที่ตอบไปแล้ว ถ้าไม่แตกเป็นแผล ก็ไม่ใช่เริม ในกรณีของคุณอาจจะเป็นต่อมไขมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แนะนำหาหมอ สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนยาแอสไพรินนั้นเป็นยาแก้ปวดลดไข้ ไม่สามารถรัษาโรคเดิมได้ครับ |
Anonymous