กระดานสุขภาพ

เป็นแผลช้ำ เจ็บลำกล้อง หัวแดงหลังมีเซ็ก
Anonymous

11 มีนาคม 2562 16:14:41 #1

ผมรู้สึกแสบเจ็บหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉาะเวลาแข็งจัดพร้อมทำกิจหรือปวดปัสวะ ผมกำวลคือตอนจะเสร็จกิจถุงยางแตกแล้วเอาต่อจนเสรจ หลังนั้นมาสี่ห้าวัน ตรงปลายก็เจ็บแดงช้ำครับ
อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.68 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

12 มีนาคม 2562 10:28:48 #2

อาการที่เล่ามา ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์คือใช้ถุงยางทุกครั้ง การที่มีการปวดที่อวัยวะเพศเวลาแข็งตัว อาจจะเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบๆอวัยวะเพศจากการรร่วมเพศที่รุนแรงหรือบ่อยหรือติดต่อกันนานเกินไป ควรจะงดกิจกรรมทางเพศประมาณ 2 อาทิตย์ อาการก็น่าจะค่อยๆดีขึ้น ส่วนผื่นแดงที่ส่วนหัวอวัยวะเพศอาจจะเกืดจาก การที่หนังหุ้มปลายแพ้ ระคายเคืองสารที่ใช้ เช่น สบู่ยา ครีม เจลอาบน้ำ ร่วมกับความอับชื้นเนื่องจากหนังหุ้มยังไม่เปิดหรือเปิดไม่สุดหรือรัดเวลาอวัยวะเพศแข็งตัวหรือรูดลงไม่ได้สุด จึงทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น ส่วนที่กังวลว่าถุงยางแตกและมีการรร่วมเพศต่อ ถ้าคู่นอนมีความเสี่ยงและเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คุณก็อาจจะติดเชื้อได้ เช่น การอักเสบในท่อปัสสาวะ ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมความเสี่ยง แนะนำหาหมอครับ