กระดานสุขภาพ

มีตุ่มแดงบนอวัยวะเพศชาย
Kitt*****6

17 กุมภาพันธ์ 2562 20:11:23 #1

พึ่งสังเกตุเห็นว่ามีตุ่มแดงๆบนน้องชายของแฟน ก่อนหน้านี้แฟนได้บ่นตลอดว่าเจ็บ ปวดแสบคิดว่าเป็นแผลฉีกขาดจากการมีพสพ แต่ก็เป็นมานานเลยได้ดูว่าเป็นอย่างไร มันจะมีตุ่มบริเวณหัวลงมาจนถึงช่วงหนังห่มหัว มองดีๆตะเหมือนมีตุ่มเล็กๆใสๆแทบมองไม่เห็น แล้วก็มีตุ่มแดงที่เมือนมันแตกจากตุ่มใสๆ เลยทำให้เป็นตุ่มแดงๆ ทำให้รู้สึกเจ็บแสบบริเวณนั้นมาก โดยเฉพาะหลังจากมีพสพด้วยกัน พอแห้งแล้วจะปวดแสบมาก และเวลาที่มันแข็งก็จะเจ็บเช่นกัน ก่อนหน้านี้ตัวหนูเองเคยใส่ยาสอดที่ขายตามเน็ตมีเพื่อนแนะนำมาว่าทำให้ฟิต เลยลอง หลังจากนั้นแฟนก็รู้สึกคัญตั้งแต่นั้นมาจนทำให้เป็นตุ่มแดงแบบนี้ ตัวหนูเองก็เป็นน่ะคะ มีอาการคุนแสบจิ๋ม เลยซื้อยาสอดตามร้านขายยามาใช้ก็หาย แต่ก็มีคันๆบ้างเล็กน้อย ส่วนแฟนไม่ได้หาหมอหรือทายาอะไรเลย อาการก็เป็นมาเรื่อยๆ หนักสุดก็ช่วงมีพสพ ด้วยกันบ่อยๆ อยากถามหมอว่าแบบนี้อันตรายไหมค่ะ คือเราก็ไม่ได้เปลี่ยนคู่นอน ก็มีแต่กับแฟน แต่ไม่เคยใส่ถุงยาง เพราะคิดว่านอนแค่กับแฟนไม่เคยไปนอนกับคนอื่น ควรรักษาอย่าไรถึงจะหาย ทุกวันนี้หลังจากมีพสพ กับแฟน ก็รู้สึกคันเหมือนกัน คิดว่าคงเป็นเหมือนกันกับแฟน แต่เพียงของแฟนจะอยู่ข้างนอกเลยเห็นเป็นตุ่มแดงได้ชัด คือหนูไม่เคยเปลี่ยนคู่นอนเลยคะ ขอคำตอบจากคุณหมอให้รู้ที่ค่ะว่าที่หนูและแฟนเป็นอยู่เกิดจากอะไร และรุนแรงแค่ไหน ควรรักษาอย่างไร ขอขอบคุณคุณหมอล่วงหน้าที่สละเวลาอ่านและให้คำตอบ ขอบคุณมากค่ะ
อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

19 กุมภาพันธ์ 2562 07:41:48 #2

จากอาการที่เล่ามา ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น และการเสียดสีจากการร่วมเพศจึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้ ส่วนในฝ่ายหญิงควรงดใช้สารหรือน้ำยาต่างๆ เพราะจะทำมห้เป็นมากขึ้น และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่
เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนฝ่ายหญิง ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอด โดยสรุป น่าจะเกิดจากการแพ้ร่วมกับเชื้อรา แนะนำหาหมอครับ