กระดานสุขภาพ
ปรึกษาเรื่องโรค Chlamydia ค่ะ | |
---|---|
17 ธันวาคม 2561 09:18:28 #1 คือหนูไปตรวจสุขภาพที่คลีนิค แล้วผลเลือด Chlamydia เป็นบวก หมอบอกว่ามันคือโรคหนองในเทียม แต่หนูไม่มีอาการอะไรเลย แล้วก็ได้ยา *** 500mg มากินทีเดียว 2เม็ด 7วัน กับ ยา *** 100mg กินครั้งละเม็ด เช้าเย็น 7วัน .. คือหนูอยากจะถามว่า ยาที่หนูกินหมอจัดให้ถูกมั้ย แล้วโรค Chlamydia สามารถตรวจด้วยเลือดได้ด้วยเหรอ |
|
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.75 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
18 ธันวาคม 2561 11:02:11 #2 เชื้อ Chlamydia trachomtis เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เป็นสาเหตุของโรคหนองในเทียมที่พบได้บ่อย มักจะไม่แสดงอาการ ซึ่งในผู้ที่มีอาการ อาการต่างๆมักปรากฏภายใน 1-3 สัปดาห์หลังจากสัมผัสเชื้อ (ระยะฟักตัวของโรค) ในผู้หญิง แบคทีเรียจะทำให้เกิดโรคที่ปากมดลูกและที่ท่อปัสสาวะ อาจจะมีตกขาวผิดปกติหรือมีปัสสาวะแสบขัดหรืออาจจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ถ้าไม่ไดรับการรักษาอาจจะมีการติดเชื้อลามไปถึงท่อนำไข่และมีการอักเสบของปีกมดลูกหรืออุ้งเชิงกราน สำหรับการวินิจฉัยโรคนั้น สามารถตรวจเชื้อด้วยวิธีการตรวจสารพันธุกรรมจากตัวอย่างที่เก็บในช่องคลอดจากปากมดลูกหรือปัสสาวะ ถ้าให้ผลบวกก็แสดงว่ามีการติดเชื้อ ส่วนการตรวจเลือดนั้น ถ้าเป็นผลบวกแสดงว่าร่างกายได้สร้างภูมิต้านทานกับเชื้อ โดยอาจจะเป็นการติดเชื้อในอดีตที่ผ่านมา ไม่ได้บอกว่ามีการติดเชื้อในปัจจุบัน สำหรับการรักษานั้น 1.กินยา Azithromycin ขนาด 250 มิลลิกรัม กินครั้งเดียว 4 เม็ด หรือ 2. กินยา doxycycline ครั้งละ 100 มิลละกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น 1 อาทิตย์ |
Anonymous |
18 ธันวาคม 2561 12:53:55 #3
แล้วถ้าผลเลือดเจอเชื้อ Chlamydia เป็นบวก หนูต้องได้กินยารักษาใช่มั้ยค่ะคุณหมอ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
19 ธันวาคม 2561 02:24:26 #4 ตามที่ได้ตอบไปแล้ว การวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อนี้ในระบบอวัยวะสืบพันธ์ เช่น ปากมดลูก หรือในท่อปัสสาวะ จะใช้การตรวจสารพันธุกรรมจากปากมดลูกหรือจากน้ำปัสสาวะ ส่วนการตรวจเลือนั้นบอกได้แค่ว่าเคยมีการสัมผัสกับเชื้อตัวนี้มาแล้วแต่ไม่ได้เป็นการบอกว่าขณะนี้มีการติดเชื้ออยู่ ส่วนการกินยารักษานั้น ขึ้นอยู่กับแพทย์ซึ่งต้องอาศัยการซักประวัติเสี่ยง ประวัติป่วยในอดีต การตรวจร่างกายหรือการตรวจภายในประกอบการตัดสินใจครับ |
Anonymous |
20 ธันวาคม 2561 04:11:55 #5
คุณหมอค่ะ แล้วเลือดหนูจะกลับมาปกติมั้ยคะ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
21 ธันวาคม 2561 09:10:56 #6 การตรวจเลือดที่ให้ผลบวกต่อเชื้อ Chlamydia แสดงว่าเคยมีการสัมผัสหรือติดเชื้อ ทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีหรือภูมิต้านทานที่ทำให้ผลเลือดเป็นบวก ซึ่งผลเลือดอาจจะบวกได้ตลอดเป็นเวลานานหรือตลอดไปถึงแม้ว่าจะรักษาแล้ว เพราะฉะนั้น การวินิจฉัยการติดเชื้อนี้ในระบบอวัยวะสืบพันธ์คือการตรวจสารพันธุกรรมจากตัวอย่างที่เก๊บที่บริเวณท่อปัสสาวะ ปัสสาวะหรือปากมดลูกครับ |
Anonymous