กระดานสุขภาพ

สงสัยว่าตัวเองต่อมลูกหมากอักเสบ
Sath*****g

11 พฤศจิกายน 2561 07:31:51 #1

ผมรู้สึกหน่วงตรงท้องน้อย มีอาการตัวร้องผิดปกติ และตอนหลั่งอสุจิ รู้สึกเคืองๆตรงต่อมลูกหมากครับ เป็นๆหายเลยไม่ได้เอะใจ จนมีเพศสัมพันธ์กับแฟน ทำให้แฟนมีอาการตกขาว เป็นสีขาว ทีแรกนึกว่าอาการของแฟนเป็นผลมาจากการสวนล้างหรือกางเกงในอับชื้น แต่เพราะแฟนเป็นๆหายๆผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะผมหรือเปล่า ผมเลยลองไปตรวจ หมอก็บอกว่าทางเดินปัสวะอักเสบติดเชื้อนิดหน่อย ค่าของผลตรวจปัสสาวะ มี Blood +1 หมอเลยให้ยามาทาน ตรวจ HIV ก็ไม่มี แต่กินยาก็ดีขึ้น แต่ตอนนี้กลับมาเป็นซ้ำเลยอยากถามว่าควรรักษายังไงครับ
อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 72 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.45 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Sath*****g

11 พฤศจิกายน 2561 07:38:00 #2

และหลังจากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งล่าสุด อวัยวะเพศของผม เหมือนเป็นเชื้อราเล็กน้อยครับ ไม่มีแผลและตุ่มอื่นๆแต่อย่างใด
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 พฤศจิกายน 2561 09:45:49 #3

ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนแฟน ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอด ส่วรเรื่องระบบปัสสาวะอักเสบนั้น แบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ถ้าไม่มีความเสี่ยงก็อาจจะเกิดจากเชื้อราร่วมกับการแพ้ และอาจจะมีการอักเสบของระบบปัสสาวะจากแบคทีเรียทั่วไป ไม่เกี่ยวกับต่อมลูกหมาก ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ

Sath*****g

11 พฤศจิกายน 2561 13:05:55 #4

สามารถซื้อยาตัวไหนเพื่อรักษาได้บ้างครับ หมอทางโรงพยาบาลเคยให้ ofloxacin 200มากินครับ ผมมีอาการตรงต่อมลูกหมากจริงๆครับ เคืองๆ ตัวร้อนมากเลย
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

12 พฤศจิกายน 2561 10:18:10 #5

ต่อมลูกหมากอักเสบมักจะพบในวัยกลางคนขึ้นไป การวินิจฉัยโรคที่แน่นอนจะต้องมีการตรวจสารคัดหลั่งที่ได้จากการนวดต่อมลูกหมาก ร่วมกับการตรวจปัสสสาวะรวมทั้งการทำอัลตราซาวน์ด ในกรณีของคุณถ้าสงสัยว่าจะเป็นต่อมลูกหมากอักเสบ แนะนำหาหมอเฉพาะทางคือหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะ (เพราะโดยทั่วไปไม่ค่อยพบในวัยหนุ่ม มักจะพบในวัยกลางคนขึ้นไป ) สำหรับการรักษานั้น จะให้ยาปฏิชีวนะที่สามารถฆ่าเชื้อได้ดีในระบบทางเดินปัสสาวะ ยาที่ถามมาคือ ofloxacin เป็นยาในกลุ่มควิโนโลนที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้ดีในระบบทางเดินปัสสาวะ แต่ถ้ากินโดยที่ไม่ได้ติดเชื้อ ก็อาจจะทำให้เกิดการดื้อยาได้ โดยสรุป แนะนำหาหมอเฉพาะทางด้านระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ