กระดานสุขภาพ

ตุ่มที่หัวอวัยวะเพศ
Oque*****n

2 พฤศจิกายน 2561 06:10:34 #1

สวัสดีครับคุณหมอ

ผมจะขอเล่าสิ่งที่ผมเป็นมาก่อนหน้านี้เพื่อให้คุณหมอได้ทราบข้อมูลให้มากที่สุดนะครับ

เมื่อ วันที่ 2 ต.ค. ผมได้มีเพศสัมพันธ์กันแฟนโดยไม่สวมถุงยางอนามัยเพราะเป็นช่วงที่แฟนพึ่งหมดประจำเดือน

หลังจากวันนั้นผมมีอาการคันยุกยิกที่ท่อปัสสาวะแล้วอาการคันมากขึ้นเรื่อยๆแต่ยังไม่ทันมีหนองไหล ผมจึงไปหาหมอในวันที่ 24 ต.ค. โดยการตรวจปัสสาวะด้วยผล ua พบ wbc 2-3 cell/hpf หมอจึงให้ยาฆ่าเชื้อ มา 2ตัว เป็นยาแบบรักษาหนองในเทียม และยาลดเกร็งกะเพาะปัสสาวะมา1ตัว และนัดให้ไปพบอีกครั้งเมือวันที่ 31 ต.ค. และได้ทำการตรวจปัสสะวะอีกครั้ง พบ wbc 0-1 cells/hpf หมอบอกว่าไม่มีเชื้อแล้วจะให้หยุดยา แต่ผมบอกว่ายังปวดๆขึ้นมาอยู่บางครั้งหมอจึงให้ยาฆ่าเชื้อขนาด 100 mg ที่ทานเช้าเย็น เป็นตัวที่สามารถใช้รักษาสิวได้และระบบทางเดินปัสสาวะได้เพิ่มมากินอีก7วัน และไม่ได้ทำการนัดเพิ่มเติม

แต่พอมาตอนเย็นผมกลับมาบ้านมันมีผื่นแดงๆแบบในรูปขึ้นมานิดหน่อย พอมาตอนเช้ามันก็ขึ้นมาเยอะมากดังภาพ และเหมือนมีเมือกๆด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเมือกอันเดียวกับปกติที่เวลาผู้ชายแข็งตัวแล้วจะมีเมือกออกมาหรือไม่ ตอนนี้เริ่มมีการการคัน เจ็บนิดหน่อย แยากทราบว่ามันคืออะไรและต้องทำอย่างไรต่อไปบ้างครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Oquestion-46412-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Oquestion-46412-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Oquestion-46412-3.jpg

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.98 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 พฤศจิกายน 2561 18:04:17 #2

ดูจากรูปที่ส่มา เห็นเป็นผื่นหรือจุดแดงๆที่บริเวณส่วนหัวอวัยวะเพศ ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและค่อนข้างแห้ง และอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่ดีขึ้นหรือไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนแฟน ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอด สำหรับผลการตรวจปัสสาวะอยู่ในเกณฑ์ปกติครับ