กระดานสุขภาพ
มีตุ่มแดงๆ2-3จุดขึ้นตรงหัวอวัยวะเพศครับ | |
---|---|
9 ตุลาคม 2561 12:57:09 #1 คือประมาณ4-5วันที่ผ่านมามีตุ่มแดงๆขึ้นตรงอวัยวะเพศของผมตุ่มแรกแดงๆเล็กๆไม่คันไม่เจ็บครับพอผ่านมาอีกวันมันก็ขึ้นเพิ่มลักษณะเดียวกันตอนนี้ล่าสุดมี4ตุ่มครับผมกังวัลมากกลัวเป็นเริมหรือป่าวส่วนตัวผมมีอะไรกับแฟนแต่ใส่ถุงยางครับแฟนยังซิงคือผมเปิดซิงแฟนเมื่อประมาณ3อาทิตก่อนตุ่มมาขึ้นเมื่อ4วันที่แล้วครับอยากทราบว่าผมเป็นอะไร |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
9 ตุลาคม 2561 12:57:43 #2
ผมพอมีภาพรอสักครู่
|
Anonymous |
9 ตุลาคม 2561 13:16:24 #3 |
Anonymous |
9 ตุลาคม 2561 13:21:45 #4 |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
10 ตุลาคม 2561 07:05:23 #5 ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นจุดแดงๆเล็กๆที่ส่วนหัวอวัยวะเพศ ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและค่อนข้างแห้ง และอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่ดีขึ้นหรือไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนแฟน ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอด |
Anonymous |
10 ตุลาคม 2561 10:45:31 #6
หมอครับตอนนี้มันขึ้นมาเพิ่มแต่ไม่ปวดเจ็บหรือคันสักนิดละอีกอย่างคือผมอยาทราบว่าถ้าไม่ทายาจะหายไหมครับหรือต้องทายาอย่างเดียว
|
Anonymous |
10 ตุลาคม 2561 10:52:23 #7
คือถ้าผมเน้นทำความสะอาดดูแลรักษาอย่างที่คุณหมอบอกแต่ไม่ทายาผมจะหายไหมครับ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
11 ตุลาคม 2561 14:50:59 #8 ถ้าทำความสะอาดตามที่แนะนำ พยายามไม่ให้อับชื้น ก็อาจจะไม่ต้องทายา แต่ถ้าไม่ดีขึ้นหรือเป็นมากขึ้น แนะนำหาหมอครับ |
Anonymous |
12 ตุลาคม 2561 00:23:07 #9
อ้อขอบคุณครับ
|
Anonymous