ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาการที่เล่ามน่าจะเกิดจากการทำออรัลเซ็กส์ที่รุนแรงหรือนานหรือติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้เยื่อบุท่อปัสสาวะซ้ำและอักเสบ จึงมีอาการปัสสาวะแสบได้ ส่วนการช่วยตัวเองถือเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ถ้าการช่วยตัวเองที่ไม่บ่อย เช่นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จากการศึกษาไม่พบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพหรือเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ในบางรายที่มีการช่วยตัวเองที่บ่อย เช่น วันละหลายครั้งหรือทุกวัน และทำติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจมีผลทางด้านจิตใจ เป็นคนเสพติดการช่วยตัวเอง เวลามีการร่วมเพศจริงๆกับผู้หญิง อาจจะเกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือการหลั่งเร็วหรือหลั่งก่อนการสอดใส่ก็ได้ นอกจากนี้ถ้าถ้ามีการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป และรุนแรง นานเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะและเนื้อเยื่อรอบๆอวัยวะเพศ เกิดอาการปัสสาวะบ่อย ปวดท้องน้อยและหน่วงที่ลูกอัณฑะ โดยสรุป ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศ น่าจะเกิดจากการช้ำอักเสบจากกาทำออรัลเซ็กส์และการช่วยตัวเอง แนะนำหยุดกิจกรรมทางเพศ 2 อาทิตย์ ในการช่วยตัวเองครั้งต่อไปให้ทำด้วยความนุ่มนวล ถ้าอาการไม่ดีขึ้นแนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ

ตามที่ได้ตอบไปแล้ว ถ้าทั้งตัวคุณและแฟนต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศ คือไม่ได้มีเซ็กส์กับคนอื่นหรือถ้ามีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เป็นก็น่าจะเกิดจากการช้ำอักเสบจากการร่วมเพศหรืออรัลเซ็กส์ ไม่ต้องกินยา พักกิจกรรมทางเพศ 2 อาทิตย์ ก็น่าจะดีขึ้น แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็มีโอกาสเป็นโรคติดเชื้อในท่อปัสสาวะโดยสรุป ถ้ามีความเสี่ยง แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะเพื่อตรวจเพิ่มเติมเช่น ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง อาการจะค่อยๆดีขึ้นถ้างดกิจกรรมทางเพศ