กระดานสุขภาพ
น้ำอสุจิเป็นสีน้ำตาลครับ | |
---|---|
2 มกราคม 2561 10:21:43 #1 *** รบกวรคุณหมอช่วยวินิจฉัยให้ทีครับว่าเป็นอะไรหรือป่าว **** |
|
อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 176ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.79 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Haamor Admin(Admin) |
2 มกราคม 2561 17:23:44 #2 ขออภัยค่ะ ลิงก์รูปไม่สามารถดูได้เนื่องจากขึ้นว่า การเชื่อมต่อของคุณไม่เป็นส่วนตัว กรุณาอัพรูปที่เว็บไซต์อื่นได้ไหมคะ |
Anonymous |
3 มกราคม 2561 13:48:05 #3 https://www.img.in.th/image/qXZrL |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
4 มกราคม 2561 18:31:44 #4 การช่วยตัวเองถือเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ถ้าการช่วยตัวเองที่ไม่บ่อย เช่นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จากการศึกษาไม่พบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพหรือเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ในบางรายที่มีการช่วยตัวเองที่บ่อย เช่น วันละหลายครั้งหรือทุกวัน และทำติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจมีผลทางด้านจิตใจ เป็นคนเสพติดการช่วยตัวเอง เวลามีการร่วมเพศจริงๆกับผู้หญิง อาจจะเกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือการหลั่งเร็วหรือหลั่งก่อนการสอดใส่ก็ได้ นอกจากนี้ถ้าถ้ามีการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป และรุนแรง นานเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะและเนื้อเยื่อรอบๆอวัยวะเพศ เกิดอาการปัสสาวะบ่อย ปวดท้องน้อยและหน่วงที่ลูกอัณฑะ น้ำอสุจิ (Semen) ประกอบด้วยตัวอสุจิและน้ำหล่อเลี้ยงต่างๆ เป็นของเหลวลักษณะสีขาวข้นที่หลั่งออกโดยผู้ชาย เมื่อถึงจุดสุดยอดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หรือจากการสำเร็จความใคร่ หรือขับมาตามธรรมชาติที่เรียกว่าฝันเปียก จะมีส่วนประกอบของโปรตีนและน้ำตาล โดยการหลั่งน้ำอสุจิแต่ละครั้งประมาณ 3-4 ซีซี มีจำนวนตัวอสุจิเฉลี่ยประมาณ 300-500 ล้านตัว ส่วนประกอบที่สำคัญในน้ำอสุจิคือน้ำหล่อเลี้ยงต่างๆที่ช่วยให้ตัวอสุจิมีชีวิตและแหวกว่ายไปผสมกับไข่ที่ท่อรังไข่ของผู้หญิง โดยทั่วไปจะมีสีขาวขุ่น อาจมีสีแตกต่างกันไปได้ ในกรณีของคุณ ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นน้ำอสุจิมีสีออกน้ำตาล อาจจะมีเลือปนจากการฉีกขาดของเนื้อเยื่อหรือเส้นเลือดฝอยจากการช่วยตัวเองที่บ่อยหรือรุนแรง แนะนำหยุดกิจกรรมทางเพศ 2 อาทิตย์ ถ้ายังเป็นอยู่แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะ อาจจะมีการอักเสบของต่อมลูกหมากหรือทางเดินปัสสาวะครับ |
Anonymous |
5 มกราคม 2561 11:14:50 #5 ขอบพระคุรครับเเล้วมันเป็นอันตรายไหมครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
6 มกราคม 2561 07:22:36 #6 ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ถ้าเป็นการฉีกขาดของเนื้อเยื่อหรือเส้นเลือดฝอย การหยุดกิจกรรมทางเพศ 2 อาทิตย์ และถ้าไม่มีการฉีกขาดเพิ่มเติม ก็ไม่มีอันตราย ถ้าเกิดจากการอักเสบก็ต้องรักษาแต่อาจจะมีการติดเชื้อได้อีกครับ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ |
Anonymous