กระดานสุขภาพ

โรคซิฟิลิส
Anonymous

26 ธันวาคม 2560 05:04:16 #1

ดิฉันเป็นสาวประเภทสองค่ะ มีแฟนคนนึงคบกันมาได้ 3 ปี แล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนแฟนบอกว่าเป็นแผลที่อวัยวะเพศ ดิฉันจึงไปตรวจพร้อมกับแฟน แต่หมอเจาะเลือดให้ฉันคนเดียว ส่วนแฟนนัดเจาะปีหน้า ผลเลือด HIV ฉันออกมาว่า Negative แต่ผบลเลือดซิฟิลิสออกมาว่า Reactive อยากทราบว่าโรคนี้ร้ายแรง หรืออันตรายมากมั้ยคะ เพราะดิฉันไม่มีอาการอะไรเลย แผลที่อวัยวะเพศหรือที่อื่นก็ไม่มี แต่ก็กังวลนิดหน่อย เพราะหมอไม่ได้อธิบายอะไรเลย บอกแค่ว่าให้ฉีดยา แล้วอีก 3 เดือนนัดไปเจาะเลือดใหม่
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.30 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

26 ธันวาคม 2560 18:11:52 #2

ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า Treponema pallidum แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 มีแผลขอบแข็ง ไม่ค่อยเจ็บ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คันหรือ ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ แต่ผลการตรวจเลือดซิฟิลิสให้ผลบวก รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) 1.การติดตามผลการรักษาโดยการตรวจ VDRL หรือ RPR มีข้อบ่งชี้ว่าต้องรักษาซ้ำ เมื่อค่า VDRL หรือ RPR เพิ่มขึ้นจากก่อนรักษาหรือในการติดตามผลในการตรวจครั้งต่อๆมามากกว่า 4 เท่า หรือเมื่อครบ 1ปี ยังมีค่ามากกว่า 1:8 2. ควรตรวจเลือดทุก 3- 6 เดือน ในกรณีของคุณ ถ้าไม่มีอาการแต่ผลการตรวจเลือดเป็นบวก น่าจะเป็นระยะแฝงซึ่งถ้าเป็นไม่เกิน 1 ปี ก็ฉีดยาครั้งเดียว โดยสรุป ผลเลือดซิฟิลิสบวก แต่ไม่มีอาการถือว่าเป็นระยะแฝง ให้ติดตามผลการรักษาตามที่หมอนัดครับ