กระดานสุขภาพ

ต่อมน้ำเหลืองโต
Anonymous

3 ธันวาคม 2560 08:22:46 #1

สวัสดีครับคุณหมอ ขอสอบถามหน่อยครับพอดีเครียดมากเริ่มเรื่องเลยนะครับ เนื่องช่วงต้นปี 2554 เดือน กุมภาพันธ์ ผมเคยไปเที่ยวบริการ แต่ใส่ถุงยางอนามัย ถุงไม่ขาดนะครับ ไม่มีการจูบแลกลิ้น แต่หลังจากนั้นผมก็กังวลเรื่อยๆมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เกือบจะ7ปีแล้ว อยากสอบถามว่าผมมีโอกาสติดเชื้อhiv ไหมครับในกรณีที่คู่นอนมีเชื้อ แต่ผมป้องกันถุงไม่ขาดไม่แตกไม่รั่ว หลังจากนั้นผมก็มีอาการต่อมน้ำเหลืองที่คอด้านซ้ายโตประมาณ1เซน1ก้อนและด้านขาว1ก้อน ก้อนจะเล็กกว่าด้านซ้าน ด้านซ้ายจะนิ่ม ด้านขาวจะแข็งๆหน่อย กดไม่เจ็บนะครับ ต่อมน้ำเหลืองก็จะโตประมาณนี้มา6-7ปีแล้ว ไม่โตไปมากกว่านี้ ยกเว้นเจ็บคอก็จะโตหน่อยพอทานยาหายเจ็บก็จะกลับไปเท่าเดิม 2.เนื่องจากผมมีปัญหาในช่องปาก มีฟันผุที่เหลืองแต่ตอๆ ประมาณ5ซีก ซึ้งฟันที่ผุ 5ซีกนี้ก็ยังไม่ได้ถอน ประมาณ 5-6 ปีแล้ว แต่มีการขูดหินปูนบ้าง ใส่ฟันปลอบด้วย1ซีกด้านหน้า 3.มีอาการลิ้นเป็นสีขาวๆ อยากทราบว่าเป็นเพราะปัญหาในช่องปากหรือป่าวครับที่ทำให้เกิดต่อมน้ำเหลือง กังวลใจมาตลอดเลยครับ 4.อยากทราบว่าเป็นอาการของhiv ไหมครับ มีความเครียดมากยิ่งเวลาเปิดอินเตอร์เน็ตดูอาการของโรคhiv แล้วยิ่งกลัวบางวันก็นอนไม่ค่อยหลับ หายใจเหนือยๆ เคยไปหาหมอ หมอก้บอกว่าให้เอาเวลาที่ดูอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับพวกโรคhiv ไปออกกำลังกายและรักษาช่องปากดีกว่า อยากทราบอาการที่กล่าวมาใช่โรคhiv ไหมครับ ผ่านมาเกือบ7ปีแล้วหลังจากที่เคยไปเที่ยว ขอบคุณครับ
อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.72 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

3 ธันวาคม 2560 09:00:28 #2

เพิ่มเติมครับ - ผมมีการฝันเปียกบ่อย นี่อาการแบบนี้คล้ายๆอาการตกขาวของผู้หญิงที่ติดเชื้อhiv ไหมครับ - กังวลตอมน้ำเหลืองที่คอมากครับ แต่ก็อย่างที่บอกโตขนาดเท่าเดิมมา จะ7ปีแล้ว - เมื่อก่อนสูบบุรี่พึ่งจะมาเลิกได้เกือบหนึ่งเดือน - คอชอบแดง กลืนลำบาก เป็นๆหายๆ ครับ
Anonymous

4 ธันวาคม 2560 06:41:37 #3

รอหมอมาตอบอยุ่นะครับ กังวลใจมากๆ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 เมษายน 2561 18:13:38 #4

  • อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ในกรณีของคุณที่มีอาการต่างๆหลายอย่าง ถ้าคุณเคยตรวจเลือดหลังมีความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 3 เดือนและไม่ด้มีความเสี่ยงเพิ่มเติม ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าคุณไม่ติดเชื้อเอดส์หรือ เอชไอวี ไม่มีโอกาสที่ร่างกายจะติดเชื้อโดยไม่มีการสร้างแอนติบอดี อาการต่างๆที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น หรือเกิดจากความกังวล ความเครียด กลัวว่าจะติดเชื้อ แต่ถ้าคุณยังไม่เคยตรวจเลือด แนะนำให้ตรวจเลือดโดยใช้สิทธิประกันสังคมหรือบัตรทอง ไม่ต้องเสียค่าตรวจ
  • ส่วนที่มีปัญหาเรื้อรังและมีอาการหลายๆอย่าง แนะนำว่ควรจะพบแพทย์ เพื่อจะได้มีการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจทางด้านห้องปฏิบัติการ รวมทั้งวิธีการตรวจอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ หรืออาจเกิดจากความกังวล ทำให้คิดไปต่างๆนาๆ เช่นมีอาการใหม่ๆแปลกๆเพิ่มเรื่อยๆ คล้ายกับการย้ำคิดย้ำทำซึ่งอาจเป็นเรื่องของสภาพจิต โดยสรุป แนะนำหาหมอเพื่อรักษาโรคในช่องปากและฟัน และถ้ายังไม่เคยตรวจเลือด ก็ควรจะตรวจเลือเอดส์ แต่ถ้าเคยตรวจแล้ว และไม่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์แน่นอนครับ