การที่มีการสอดใส่ทางทวารหนักโดยไม่ใช้ถุงยาง ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อสูง จากประวัติและจากรูปที่ส่งมา พอจะอธิบายได้ดังนี้ 1. มีส่วนที่เป็นริดสีดวงด้วยคือส่วนที่เป็นถุงโป่งออก 2. มี ติ่งเนื้อที่เห็นสีออกชมพู มีขนาดเล็ก น่าจะเป็นหูดหงอนไก่ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัส Human papillomavirus (HPV) รักษาโดยใช้ยา podophyllin จี้ โดยแพทย์หรือพยาบาล อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4 อาทิตย์ก็จะหลุด หรืออาจใช้เลเซอร์หรือจี้ด้วยไฟฟ้า แนะนำหาหมอกามโรคหรือ ระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ และควรจะตรวจเลือดเอดส์ ซิฟิลิส โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง หรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะจากการศึกษาพบว่าชายรักร่วมเพศมีโอกาสที่จะติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิสสูงกว่าชายทั่วๆไปหลายเท่า ส่วนเรื่องริดสีดวงนั้น สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ

ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยการฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ถ้ารักษาแล้วก็จะไม่เห็นจากภายนอก โดยสรุป แนะนำหาหมอ เยื่องจากน่าจะเป็นหูดและริดสีดวงครับ

ลืมแจ้งครับคุณหมอใส่ถุงยางตลอด และไม่ได้ไปมีความเสี่ยงใดๆครับอีกอย่างคือเช็คผลเลือดแล้วไม่มีทั้ง hivและซิฟิลิสครับ อย่างงี้เป็นหูดหงอนไก่ได้หรอครับ

การตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสได้ผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิส แต่ ไม่เกี่ยวกับโรคหูดหงอนไก่ ซึ่งวินิจฉัยโรคจากการดูด้วยตาหรือการตรวจทางสารพันธุกรรม รูปที่ส่งมาเป็นติ่งเนื้อที่มีลักษณะคล้ายกับหูดหงอนไก่ แนะนำหาหมอเพื่อตรวจให้แน่ใจครับ หูดหงอนไก่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการสัมผัสอย่างใกล้ชิด เช่นการถูไถก็ได้ครับ