กระดานสุขภาพ

ตุ่มอะไรครับ
Anonymous

3 พฤศจิกายน 2560 08:06:40 #1

ขึ้นมาสองวัน ปวดนิดๆ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/596ed-39570-1.1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/596ed-39570-2.1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/596ed-39570-3.1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/596ed-39570-4.1.jpg

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

3 พฤศจิกายน 2560 08:09:00 #2

https://www.picz.in.th/image/dNkfaS https://www.picz.in.th/image/dNkkzn https://www.picz.in.th/image/dNk3xg https://www.picz.in.th/image/dNk9nW
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

4 พฤศจิกายน 2560 14:47:00 #3

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นตุ่มใสๆที่บริเวณหนังหุ้มและที่บริเวณอวัยวะเพศ รวมทั้งที่หัวเหน่า ลักษณะคล้ายกับ 1. อาการเริ่มต้นของงูสวัด (Herpes zoster) เกิดจากเชื้อไวรัส พบได้ในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำหรือในคนสูงอายุหรือคนที่กินยากดภูมิต้านทาน จะเริ่มด้วยการมีไข้ ปวดกล้ามเนื้อบริเวณที่เริ่มจะมีตุ่ม หลังจากนั้นจะเริ่มมีกลุ่มของตุ่มน้ำกระจายได้หลายกลุ่มตามระบบเส้นประสาท ตุ่มน้ำจะแตกใน2-3 วัน เริ่มเป็นแผลซึ่งอาจจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ประมาณ 2-3 อาทิตย์ แผลก็จะค่อยๆแห้งและหาย อาจจะมีรอยแผลเป็นได้หลังจากที่แผลหาย ยาที่จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นคือ ยากิน acyclovir โดยกินครั้งละ 800 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. (วันละ 5 ครั้ง) ให้กินประมาณ 7-14 วันแล้วแต่ความรุนแรงของโรค และควรจะหาสาเหตุที่ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ เช่น ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ คือมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางหรือมีประวัติเป็นเกย์ที่มีการร่วมเพศกับผู้ชายด้วยกัก็ควรจะตรวจเลือดเอดส์โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 2. อาจจะเป็นเริม ซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง
แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่มปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป น่าจะเป็นงูสวัด แนะนำหาหมอครับ