กระดานสุขภาพ

ปลายอวัยวะเพศชายเป็นตุ่ม
Anonymous

5 พฤษภาคม 2560 05:43:56 #1

ผมมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักเมื่อวันที่ 1 แล้ววันที่ 4 ปลายอวัยวะเพศบริเวณปลายรูปัสสาวะเป็นตุ่มใสๆ บีบแตกจะมีน้ำออกมาแต่ไม่เจ็บ โดยมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงครับ แยากทราบผมเป็นโรคอะไรครับหมอ
อายุ: 26 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 84 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.93 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

6 พฤษภาคม 2560 13:21:30 #2

การร่วมเพศทางทวารหนักโดยไม่ใช้ถุงยางถือว่ามีความเสี่ยง ถ้ามีตุ่มน้ำหรือเป็นแผล

1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง

2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) โดยสรุป ขึ้นอยู่กับลักษณะของตุ่มหรือแผลที่เป็น แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆมาให้ดูเพิ่มเติม นอกจากนี้ แนะนำว่าควรจะตรวจเลือเอดส์และซิฟิลิส เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าในชายรักร่วมเพศหรือเกย์มีอัตราการติดเชื้อสูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า สามารถตวจได้โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ