กระดานสุขภาพ
ผมเป็นโรคเริมหรือเปล่าครับแล้วจะรักษายังไงครับ | |
---|---|
24 มีนาคม 2560 05:32:53 #1 คือตอนผมอายุ 11 ปีครับผมได้ลองเปิดหนังหุ้มอวัยวะเพศดูแล้วเห็นตุมใสๆ อยู่ที่หนังหุ้มและตรงโคนอวัยวะเพศเล็กน้อย ผมก็สงใสแต่ก็ไม่ได้อะไรครับ แล้วพอเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ผมก็ได้สังเกตุเห็นว่าผมมีตุ่มคล้ายๆ ที่ที่อวัยวะเพศที่บริเวณริมฝีปาก ผมเลยไปค้นดูในเน็ตก็เจอโรคเริมครับ ผมก็ไม่ได้เครียดมากนะครับแต่ว่าก็อยากให้ตุ่มๆลดลงบ้าง ช่วงนี้ผมทำงานเยอะพอสมควร ละอ่านหนังสือนะครับ ผมก็สังเกตุเห็นว่า ตุ่มใสๆ ที่อวัยวะเพศและที่ปากมันเยอะขึ้นนะครับ ผมอยากให้มันลดลงพอจะช่วยได้ไหมครับ ผมเคยมีเพศสัมพันธ์อยู่ครับแต่เมื่อนานมาแล้ว หลังจากที่ผมเห็นตุ่มใสๆนะครับ |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 88 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.73 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
26 มีนาคม 2560 04:30:29 #2 ในกรณีที่มีตุ่มบริเวณอวัยวเะพศ ถ้าเป็นก่อนที่จมีการ่วมเพศก็ไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตุ่มเล็กๆ ที่ขึ้นรอบๆส่วนหัวของอวัยวะเพศ เรียกว่า pearly penile papules เป็นต่อมที่ขึ้นได้ตามธรรมชาติ จะมีขนาดต่างกัน ในบางคนอาจเล็กมากจนสังเกตุไม่เห็น แนบางคนอาจใหญ่และมีตั้งแต่ 1-3 แถว ดูเหมือนเป็นหูดหงอนไก่ ต่อมเหล่านี้ถือว่าเป็นปกติ ไม่ต้องกังวลหรือรักษาแต่อย่างไร ในกรณีที่ใหญ่มากจนมองแล้วไม่สวย มีการใช้เลเซอร์ลบให้เล็กลง แต่ก็อาจเป็นใหม่ได้ หรืออาจจะเป็น ต่อมไขมันที่เรียกว่า Fordyce spot ซึ่งเป็นตุ่มที่เกิดจากต่อมไขมัน หรือต่อม sebaceous glands ซึ่งปกติจะอยู่ร่วมในรูขน แต่ในกรณีนี้อยู่นอกรูขน แต่อยู่ที่ผิวหนังแทน โดยยังไม่รูสาเหตุ แต่ไม่เป็นอันตราย บางคนอาจจะค่อยๆจางลงเองได้ บางรายอาจอยู่ได้เป็นเดือน ปี โดยไม่มีอันตรายแต่อย่างไร ไม่ต้องกังวลนะครับ ในรายที่เป็นมาก อาจลองใช้เลเซอร์ให้จางลงได้ แต่ผลการรักษาไม่แน่นอน อาจเป็นใหม่อีกได้ ส่วนเริมนั้น เป็นโรคติดต่อทางเำศสัมพันธ์ิ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีของคุณ ถ้าตุ่มที่เป็นไม่ได้แตกเป็นแผลและไม่เป็นๆหายๆ ก็อาจจะไม่ใช่เริม โดยสรุปขึ้นกับลักษณะของตุ่มที่เป็นและพฤติกรรมเสี่ยง แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นมาเพิีมเติมครับ |
Bonc*****3