กระดานสุขภาพ
การตรวจเริม | |
---|---|
22 กุมภาพันธ์ 2560 16:35:39 #1 หากเคยเป็นแผลที่อวัยวะเพศ แผลหายแล้ว แต่สงสัยว่าอาจจะเป็นแผลเริม (ที่หายไปแล้ว) หรือมีเชื้อเริมอยู่หรือเปล่า สามารถตรวจโดยการตรวจเลือดแบบใดได้บ้างหรือเปล่าครับ หรือต้องรอให้เป็นแผลอีกและตรวจจากเนื้อเยื่อของแผลเท่านั้นครับ ขอบคุณครับ
|
|
อายุ: 32 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
24 กุมภาพันธ์ 2560 17:58:14 #2 เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีของคุณที่สงสัยว่าจะเป็นเริมหรือไม่ ถ้าขณะที่ไม่มีแผล สามารถตรวจเลือดได้ เป็นการตรวจภูมิต้านทานต่อเชื้อเริม ถ้าเคยติเชื้อก็จะให้ผลบวก สำหรับกรณีที่มีแผล ก็สามารถใช้วิธีดูลักษณะของแผล หรือเพาะเชื้อจากแผลได้ |
Anonymous