กระดานสุขภาพ
ผมมีตุ่มข้างในท่อปัสวะ | |
---|---|
13 มกราคม 2560 15:15:43 #1 ตอนแรกผมมีการฉี่แสบ ขัด ฉี่ขุ่น เหม็น จึงไปหาหมอ ปล้วหมอให้ยามากิน เป็นยาฆ่าเชื่อเฉพาะจุด มันก็ดีขึ้น แล้วจากนั้นสองสามวันก็แสบอีก เวลาฉี่เสร็จ จะแสบมาก มาวันนี้ ผมลองจับตรงที่ใันแสบใช้นิ้วกด คลำ มันไปเจอเม็ดเล็ก ๆ ไม่รู้เป็นตุ่ม หรือเม็ดเนื้องอกอะไรหรือเปล่า เพาะจุดนั้นมันเป็นจุดที่ทำให้ผมแสบเวลาปัสวะ จึงอยากให้หมอวินิจฉัยดูก่อนครับ เพราะไม่สบายใจเลย และไม่มียากินิวันจันทร์จึงจะไปหาหมอ ผมน่าจะเป็นอะไร หรือเป็นเพราะอะไร ก่อนหน้านี้ผมชอบหาอะไรมาสวนรูเล่น บ่อย ๆเพราะชอบเล่นซาดิด พิเลน ๆ เป็นกานส่วนตัว ขอรบกวนหมอนิดหนึ่งนะครับ ขอบพระคุณครับ |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 177ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.34 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
17 มกราคม 2560 03:48:43 #2 ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบคือมีหนองและปัสสาวะแสบขัดแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้งสองโรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมเสี่ยง แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ |
Ratt*****5