กระดานสุขภาพ

เป็นหนองใน กินยาหายแล้ว แต่ปลายอวัยวะเพศยังอักเสบอยู่
Anonymous

12 มกราคม 2560 18:56:12 #1

เริ่มคือได้รับเชื้อจากการถูกออรัลเซ็กครับ จากนั้นประมาณ6วัน มีอาการแสบเวลาฉี่และมีหนองสรขาวคล้ายอสุจิ ซึมติดกางเกงในตลอด ตอนแรกกินยาฆ่าเชื้อ(แคปซูนแดงดำ)ตามเพื่อนบอก กินได้สองแผงอาการดีขึ้นแต่พอหยุดกินก็เป็นอีก รอบสองกินยา ciprofloxalin 500mg กินสองเม็ด เช้าก่อนนอน กับofloxalin 200mgเช้าเย็น7วัน(ซื้อจากเพจในเนต) อาการหายไปแต่พอยาหมดแล้วไปดื่มเหล้าหนองก็กลับมาไหลอีก รอบสาม กินยา ciprofloxacine 500mgครั้งเดียว กับ azithromycin 250 mg 4เม็ดครั้งเดียว อาการแสบหายไป หนองไม่ไหน ดื่มเหล้าไปกฺไม่กลับมาเป็นอีก แต่มีอาการที่ยังไม่หายคือคันที่ปลายอวัยวะเพศ บางครั้งก้ในท่อปัสวะ และมีเหมือนมีการอักเสบที่ปลายอวัยวะเพศ เป็นสีช้ำๆและเปล่งปวมเล็กน้อยตามรูป แบบนี้หมายความว่าผมยังไม่หายหรือป่าวครับ หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นหรือป่าว

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6fc03-34380-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6fc03-34380-2.jpg

อายุ: 26 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.26 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

12 มกราคม 2560 19:01:34 #2

https://www.img.in.th/image/C6Ka https://www.img.in.th/image/C6Kr
Anonymous

13 มกราคม 2560 18:17:16 #3

 รูปครับ

 

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

17 มกราคม 2560 03:36:09 #4

ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบคือมีหนองและปัสสาวะแสบขัดแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ในกรณีของคุณน่าจะเป็นหนองในแท้หรือหนองในเทียม อาจจะต้องตรวจดูว่าหายหรือยังเราะมีการกอนยามาหลายชนิด สำหรับเรื่องผื่นที่เป้นและรูปที่ส่งมา อาจจะเกิดจากการแพ้หรือระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี