กระดานสุขภาพ

รบกวนหมอพิจารณาให้หน่อยครับ
Anonymous

3 มกราคม 2560 08:50:31 #1

ผมมีอาการแบบนี้ที่ปากรูทวารครับ ผมสงสัยมากว่าผมเป็นอะไร จะมีอาการปวดแค่ตอนกำลังขับถ่ายครับ แล้วมีเลือดหยดลงมา (หากถ่ายแข็ง) แต่ถ้าถ่ายเหลวจะมีแค่อาการแสบๆร้อนๆรูทวารครับ หลังจากขับถ่ายเสร็จ ผ่านไปได้ซักพักจะเหมือนตูดแฉะๆครับ พอใช้กระดาษทิษซู่ซับมันมีสีคล้ายหนองออกน้ำตาลๆอะครับ ผมรู้สึกกังวลใจมากครับกลัวจะเป็นโรคน่ากลัว ผมแนบรูปมาด้วยนะครับ ขออภัยนะครับหากรูปภาพไม่เหมาะสม ขอบคุณครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/4b20d-34101-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/4b20d-34101-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/4b20d-34101-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/4b20d-34101-4.jpg

มีอาการต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบขวาบวมด้วยนะครับ
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 69 กก. ส่วนสูง: 183ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.60 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

5 มกราคม 2560 02:24:25 #2

จากประวัติที่เล่ามา และดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลเล็กๆหลายแห่งรอบทวารหนัก มีแผลใหญ่หนึ่งแผล รวมทั้งมีส่วนที่เป็นเส้นเลือดโป่งออกคล้ายกับริดสีดวงทวาร แผลเล็กๆที่อยู่รอบๆทวารหนักน่าจะเป็นเริมที่เป็นซ้ำหลังจากที่เคยเป็น เริมเกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่นมีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ส่วนแผลใหญ่อาจจะเป็นเริมที่มีการอักเสบร่วมด้วยหรืออาจจะเป็นแผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) โดยสรุป น่าจะเป็นเริม และริดสีดวงทวาร ส่วนซิฟิลิสนั้นต้องตรวจเลือดเพื่อดูว่าเป็นหรือไม่ นอกจากนี้ ควรตรวจเลือดเอดส์ เพราะมีการศึกษาพบว่าในชายรักร่วมเพศมีโอกาสที่จะติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิสสูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า สามารถตรวจได้โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ