กระดานสุขภาพ

ตุ่มแดงขึ้นบริเวณหลังและแขนค่ะ
Anonymous

24 ธันวาคม 2559 20:37:38 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูขอปรึกษาคุณหมอให้กับพี่ชายนะคะ คือว่าพี่ชายของหนูไปมีความเสี่ยงมาค่ะประมาณสี่ถึงห้าเดือนแล้ว พี่หนูเล่าให้ฟังว่าใส่ถุงยางนะคะ แต่ว่าถุงยางหลวม พอไปเสี่ยงมาพี่ก็บอกว่ามักท้องเสียบ่อย แต่น้ำหนักไม่ลดนะคะแล้วตอนนี้มีอาการคัดจมูกแต่ไม่มีน้ำมูกค่ะ แล้วก็ไม่ได้มีไข้ แล้วก็มีตุ่มแดงขึ้นส่วนใหญ่จะขึ้นที่หลังและแขนอ่อนหรือบริเวณในร่มผ้าแต่ไม่มากนะคะ (ลักษณะของตุ่มตามรูปด้านล่างค่ะ) ไม่ทราบว่าจะเป็นตุ่มของโรคhiv หรือว่าอาการแพ้อะไรหรือเปล่าคะแล้วพี่ชายหนูไปตรวจ anti-HIV มาตอนที่เสี่ยงมาประมาณสามเดือนนิดๆค่ะ ผลออกมาเป็นลบค่ะ แต่พี่ของหนูก็ยังกังวลใจมากๆกับอาการที่เป็น แล้วจะไปตรวจอีกทีตอนครบหกเดือนค่ะ ทำให้หนูกังวลใจกับพี่ไปด้วย ไม่รู้ว่าจะช่วยพี่ยังไง ยังไงหนูรบกวนขอคำปรึกษาและคำแนะนำจากคุณหมอด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/13afd-33901-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/13afd-33901-2.jpg

อายุ: 26 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.03 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

24 ธันวาคม 2559 21:12:09 #2

อันนี้เพิ่มเติมรูปตุ่มแดงที่ขึ้นบริเวณแขนของพี่นะคะ 

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

27 ธันวาคม 2559 02:37:21 #3

มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้

  1. ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5%
  2. หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1%
  3. ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065%
  4. ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05%
  5. ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย

ส่วนเรื่องอาการของการติดเชื้อเอดส์ หรือไวรัสเอชไอวี ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ในกรณีของคุณที่เสี่ยงมาครบ 3 เดือน ผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อ ไม่มีโอกาสที่ร่างกายจะติดเชื้อโดยไม่มีการสร้างแอนติบอดี ตุ่มที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่นต่อมใต้ผิวหนังอักเสบครับ

Anonymous

28 ธันวาคม 2559 07:50:02 #4

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะคุณหมอ แล้วที่พีของหนูคัดจมูกไม่หายมาเกือบเดือนแล้วแต่ไม่ได้มีไข้ จะเป็นอาการของการติดเชื้อไวรัส hiv หรือเปล่าคะ?