กระดานสุขภาพ
ไวรัสตับอักเสบกับ hiv ครับ | |
---|---|
4 ธันวาคม 2559 07:22:16 #1 1 หากเรามีเชื้อไวรัสตับอักเสบ a b c d e จะมีผลต่อระยะเวลาการตรวจเจอ hiv ที่ 3 เดือนไหมครับ ( หรือต้องรอเวลาเพิ่มเติม) 2. หากเรารับเชื้อไวรัสตับอักเสบ a b c d e มาพร้อมกับเชื้อ hiv จะมีผลต่อระยะเวลาการตรวจเจอ hiv ที่ 3 เดือนไหมครับ (หรือต้องรอเวลาเพิ่มเติม) ขอบพระคุณครับ |
|
อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 80 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.69 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
9 ธันวาคม 2559 05:48:12 #2 การตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อเอดส์หรือไม่ วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ 1.และ 2 การติดเชื้อตับอักเสบที่ถามมา ไม่มีผลต่อการตรวจเลือดเอดส์ เพราะร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อทุกตัวที่ร่างกายได้รับมา ยกเว้นในกรณีที่แพทย์หรือพยาบาลที่ถูกเข็มหรือมีดบาดจากการักษาผู้ป่วยและติดเชื้อทั้งตับอักเสบซีและเอชไอวี มีคำแนะนำเพิ่มเติมว่าอาจจะต้องเจาะเลือดเอชไอวีที่ 6 เดือน นอกจากนี้อาจพบว่าการกินยาต้านไวรัสรักษาโรคตับอักเสบอยู่ ก็อาจจะส่งผลให้เป็นผลลบปลอมได้ ถ้าคุณมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คำแนะนำที่ประเทศอเมริกา ยุโรป รวมทั้งไทยคือ ผลการตรวจที่ 3 เดือนหลังมีความเสี่ยงเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อครับ สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ |
Anonymous |
15 ธันวาคม 2559 02:02:56 #3
ขอบคุณครับ ความเสี่ยงคือไปทำศัลยกรรมหน้าจากสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐานครับ เป็นการฉีดพิลเลอร์ และกังวลเรื่องความสะอาดและเกรงจะติดเชื้อครับ ตรวจ hiv ที่ 3 เดือนแล้ว ผลเป็นลบ ผมไม่ต้องตรวจเพิ่มแล้วใช่ไหมครับในความเสี่ยงลักษณะนี้
|
Anonymous