กระดานสุขภาพ
ผมเป็นอะไร แล้วรักษายังไง? | |
---|---|
5 พฤศจิกายน 2559 18:13:16 #1 หมอครับ เริ่มแรกเลยครับ มันเปนหัวสิวอยุ่ตรงเนื้อหุ้มอัณฆฑะครับ เม็ดนึงผมจึงไปบีบมันคิดว่าเปนแค่สิวครับพอมาวัน รุ่งขึ้นรู้สึกแสบ เปนแผลกว้างมีหนองครับ แล้วมันก้ขึ้นอีก แผลนึง โดนน้ำก้แสบครับ บางทีก้รุ้สึกคันบริเวณรอบๆ จนตอนนี้ เปนเยอะมากครับ ผมพอเหนมาในบอดบ้างแล้ว แต่ผมไปหาหมอมา หมอบอกแค่ว่า งดใส่กกนไปก่อน ให้มันอย่างงั้นไปแต่บางทีมันเดินก้สัมผัสถุกขาอยุ่ดี หมอให้ยามา3ตัวคับ Fieming1000 para500mg Rentex รู้สึกว่าจะเปน พารา ยาค่าเชื้อ ยาแก้แพ้ครับ ผมควรทำยังไง แล้วสามารถปิดแผลไว้ได้ไหม หมอบอกห้ามโดนน้ำเลย |
|
อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 179ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.85 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
7 พฤศจิกายน 2559 08:17:26 #2 ตุ่มที่เกิดขึ้นที่บริเวณโคนอวัยวะเพศและบริเวณหัวหน่าว เจ็บและเป็นแผล ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเกิดจาก 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอน 2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกา จนเป็นตุ่ม หรืออาจจะเป็นแผลที่เกิดจากแพ้สารที่ใช้บริเวณนี้ หรือแพ้ยากิน ซึ่งถ้ามีประวัติกินยา เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ ยาชุดจากร้านขายยา ก็อาจจะเป็นจาการแพ้ยา ต้องงดกินยาหรืองดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้ ลองนึกดูว่าก่อนเป็นได้กินยาอะไรหรือไม่ถ้ามีก็เป็นไปได้ว่าน่าจะเกิดจากการแพ้ยา ซึ่งลักษณะของแผลแพ้ยาจะคล้ายกับแผลที่โดนน้ำร้อนลวก ให้ล้างแผลด้วยน้ำเกลือล้างแผลเช้าเย็น ใช้ยาทาแก้แพ้ เช่น triamcinolone ทาบางๆ เช้า เย็น กินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้า เย็น ก็จะดีขึ้นใน 1 อาทิตย์ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็อาจเป็นโรคติตต่อ เช่น เริม เป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจาการติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่มที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์มาด้วยครับ |
Anonymous |
7 พฤศจิกายน 2559 20:57:38 #3
ขอบคุณครับ ที่คุณหมอมาให้ความรู้ แต่ตรงส่วนที่ผมพูดถึง คือบริเวณผิวหนังที่หุ้มถุงอัณฑะ นะครับ ที่มีเหมือนหัวสิว ขึ้นมาก่อนที่จะแตกและเป็นแผล แสบมีหนองมีเลือด แต่ตอนนี้ผมทานยาที่ผมได้ระบุไว้ มา3 วันแล้ว บางส่วนจากที่มันแดงจนแสบไปหมด เริ่มลอกออก เหลือแต่ ตรงจุดที่เป็นหัวแผลใหย่ๆหน่อย ยังคงไม่แห้งสนิด จะรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่ มีอะไรไปสัมผัสโดน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้เคยมีเพศสัมพันมานานมากพอสมควรครับ แต่ช่วง กลางเดือนผมเป็นงูสวัส ขึ้นที่เอว ต้องกินยา ทุก4ชม ตามที่หมอบอกในอย่างที่ 2 แต่ซึ้งก่อนหน้านั้นผมไม่ได้มีเพศสัมพันกับใครเลย ได้มีการตรวจเลือดแล้ว ปกติหลังจากหายก้ มีเพศสัมพัน กับแค่คนเดียว ครั้งถึง2 ครั้งครับแต่ก่อนที่จะเป็นอาการ นี้ถึง 2เดือนกว่าๆครับ
ได้ครับผมถ่ายส่งให้หมอพิจารณาหน่อยคับ เพราะอยากรู้สาเหตุกับ มันเกิดขึ้นได่อย่างไรเพราะอะไร เนื่องจากไปหาหมอมาแล้วนะครับ แต่กับได้ คำตอบที่แบบที่เหมือนไม่ได่คำตอบอะครับ เบี่ยงตอบ เอาเปนว่าอย่าโดนน้ำ ละก้กินยาอัดเข้าไปอย่างเดียว จนมันแห้งเดี่ยวก้หายเอง พอดีผมใช้สิทธิประกันสังคมอะครับ
|
Nazu*****i |
7 พฤศจิกายน 2559 21:02:02 #4
คุณหมอครับ ส่งในช่องทางไหนหรอครับรูป
|
Haamor Admin(Admin) |
9 พฤศจิกายน 2559 04:09:24 #5 เรียน คุณ Nazuizui สามารถนำรูปภาพไปฝากไว้ที่เว็บฝากไฟล์ แล้วนำลิงก์มาโพสไว้ที่กระทู้นี้ได้ค่ะ เดี๋ยวทางทีมงานจะดำเนินกาารต่อให้ค่ะ |
Nazu*****i