กระดานสุขภาพ
ผมเป็นโรคอะไร?? | |
---|---|
4 พฤศจิกายน 2559 12:12:00 #1 สวัสดีครับ ผมอายุ20 ปี น้ำหนัก54 กก. สูง167ซม. ผมมีตุ่มขึ้นที่ทวารหนัก ดังภาพhttp://haamor.com/media/images/webboardpics/mikhsmi-32724-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/mikhsmi-32724-2.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/mikhsmi-32724-3.jpg มีอาการ คัน ไม่เจ็บ เป็นมาเเล้วเดือนกว่า ครับ ผมเป็นอะไรครับ?? |
|
อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.36 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
7 พฤศจิกายน 2559 05:18:53 #2 ดูจากรูปที่ส่งมา มีทั้งที่เป็นริดสีดวง คือส่วนที่โป่งออกมาและมีสีคล้ำ และมีส่วนที่เป็นแผลตื้นๆเล็กๆ สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยการฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ถ้ารักษาแล้วก็จะไม่เห็นจากภายนอก ส่วนเรื่องแผลนั้น ถ้าคุณมีพฤติกรรมเป็นชายรักรชายที่มีเพศสัมพันธุ์โดยการสอดใส่ทางทวารหนัก ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยคือเริมซึ่งเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศและทวารหนักที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีนี้ แนะนำให้ตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสด้วย โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง บัตรประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และถ้ามีคู่นอนประจำหรือแฟน ก็ควรจะต้องตรวจรักษาพร้อมกัน และใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีการร่วมเพศ แต่ถ้าคุณไม่มีการสอดใส่ทางทวารหนัก แผลที่เกิดขึ้นอสจจะเกิดจากการที่มีท้องผูก อุจาระแข็งทำให้เป็นแผลเวลาถ่ายอุจจาระ โดยสรุป เป็นริดสีดวง ส่วนเรื่องแผลและอาการคันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอครับ |
Mikh*****i |
9 พฤศจิกายน 2559 04:00:24 #3
คุณครับ มีเลือดออกที่ข้างรูทวารหนักและมีอาการเจ็บที่รูทวารหนัก ผมเป็นอะไรครับ ทานยาริดสีดวงเม็ดสีส้มๆ ก็ไม่หาย
|
Mikh*****i