กระดานสุขภาพ
ผมได้รับเชื้อ HIV ใช่มั้ยครับ! | |
---|---|
20 ตุลาคม 2559 20:36:00 #1 วันที่ตั้งกระทู้ 20/10/2559 มีอาการเริ่มจะเป้นไข้หวัด คือปวดบริเวณต้นคอ ในวันที่ 15/10/2559 มีอาการคันตามจุดต่างๆของลำตัว เริ่มที่ ใต้รักแร้ แต่พออาบน้ำทาแป้งก็ไม่คันครับ หลังจากนั้นพอช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ผมเริ่มคันมากขึ้น คันบริเวณคอ มีผื่นแดงๆขึ้นตรงบริเวณข้อพับแขน และตรงง่ามขา ด้านข้างอวัยวะเพศ วันที่ 20/10/2559 อาการผื่นเริ่มรุนแรงและหนักขึ้น ผมคันมากจนนอนไม่ได้ พบผื่นขึ้นทั่วร่างกาย เวลา 2.00น.โดยประมาน ของวันที่ 21/10/2559 ผมอยากทราบว่าการติดเชื่อ HIV แล้วมีผื่นขึ้น ผื่นนั้นจะคันมั้ย แล้วผื่น HIV จะรุกรามหรือไม่ หรืออาจเป็นเพราะผมได้รับเชื่ออื่นที่ไม่ใช่ HIV ครับ ขณะนี้เวลา 3.30 น. มีอาการผื่นคันยังไม่หาย ผมได้อาบน้ำและทาแป้งเย็นบริเวญที่เป็นผื่นคัน อาการดีขึ้นแต่ผื่นยังอยู่ ต่อมน้ำเหลืองผมไม่ได้อักเสบ ไม่มีอาการท้องร่วง เป็นไข้เพียง3วัน ไม่มีอาการอ่อนเพลีย ไม่เคยเป็นลมพิษหรือมีอาการแพ้อะไรมาก่อน ไม่มีประวัติการแพ้ยา โดยปกติผมเป็นคนที่ชอบถอดเสื้อนอนใส่เพียงกางเกง ที่นอนและผ้าห่มผมไม่ได้เปลี่ยนเป็นเวลาหลายเดือน อาหารที่ทานในวันนี้คือก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่,เส้นหมี่ต้มยำ มื้อเย็นเป็นไส้กรอกทอด (สาเหตของผื่น อาจมาจากตรงนี้ แต่อาการหลายๆอย่างผมก็กังวลว่าผมได้รับเชื้อ HIV) ผมกังวลมากครับ กินข้าวไม่ลงเลย อาการแบบนี้คือผมได้รับเชื้อ HIV แล้วใช่มั้ยครับ |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.58 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
26 ตุลาคม 2559 06:57:54 #2 มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่า 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ในกรณีของคุณที่มีอาการคล้ายไข้หวัดหลังมีความเสี่ยงเพียง 2-3วัน ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยงอื่นมาก่อน ก็ไม่น่าจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์ อาจจะเป็นการติดเชื้อไวรัสอื่น เช่นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่หรือไวรัสอื่นๆที่ทำให้มีไข้และผื่น อย่างไรก็ตาม ถ้ามีความเสี่ยงคือไม่ใช้ถุงยาง ก็ควรจะตรวจเลือด การตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อเอดส์หรือไม่ วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ แนะนำตรวจเลือดโดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ |
Anonymous |
30 ตุลาคม 2559 14:03:59 #3 ขอบคุณมากๆครับ ผมได้ไปทำการตรวจมาแล้วเมื่อวันที่ 28/10/2559 -ผลตรวจคือผมปกติดีกับที่ผ่านมาครับ แต่แพทย์บอกว่า ผมสบายใจกับครั้งล่าได้ 80% แล้วครับ และต้องไปตรวจให้ได้แน่ 100% ในวันที่ 14/10/2559 -เรื่องอาการที่ผ่านมา หลังจากที่ผื่นขึ้น ในวันถัดมา อาการผื่นดีขึ้นจนไม่มีอาการผื่นแล้วครับ วันนี้วันที่ 30/10/2559 21:03 น. ไม่มีอาการอะไรเลยครับ ปกติทุกอย่าง วันนี้เป็นวันที่ 16 หลังจากไปมีความเสี่ยงมาครับ |
Anonymous