แม้จะตอบมาช้าเพราะติดภารกิจ แต่หมอรีบตอบมาเผื่อวันศุกร์คุณได้พบคุณหมอจะได้มีประเด็นถามคุณหมอให้แน่ชัดว่าคุณแม่เป็นโรคอะไรให้แน่นอน รวมทั้งแนวทางการรักษาด้วยค่ะ

ฟังที่คุณเล่ามาไม่ทราบว่าคุณหมอได้คุยกับคุณแม่แล้วคุณแม่ส่งต่อข้อมูลให้คุณ หรือคุณหมอได้คุยกับลูกคนใดหรือไม่คะ หรือคุยกับคุณพ่อ ซึ่งโดยปกติคุณหมอจะขอคุยกับคนใกล้ชิดหรือหากคนไข้เองพร้อมจะฟังคุณหมอก็จะคุยกับคนไข้และคนใกล้ชิดสักหนึ่งหรือสองคนที่จะช่วยฟังและช่วยในการตัดสินใจในการรักษา

ข้อมูลที่คุณหมอจะบอกก็คือเรื่องการวินิจฉัยโรค การดำเนินโรค เป้าหมายในการรักษา วิธีการรักษามีวิธีใดบ้าง แต่ละวิธีมีข้อดีข้อด้อยอย่างไร ผลการรักษาเป็นอย่างไร และผู้ป่วยจะตัดสินใจรักษาอย่างไร รวมทั้งความพร้อมในการรักษาแต่ละอย่าง ความพร้อมนี้อาจหมายถึงความพร้อมของร่างกาย ความพร้อมอื่นๆ เช่นการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด ก็ต้องมีการหาผู้ที่จะบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่มีผลการตรวจสอบเนื้อเยื่อว่าเข้ากันได้ หรืออายุคุณแม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดได้หรือไม่ เป็นต้น

เนื่องจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวมีหลายชนิดการรักษาและผลการรักษาแตกต่างกันไป

หมอพยายามจับประเด็นว่าคุณแม่เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดใด ที่คุณบอกว่าจะฉีดยาลดเม็ดเลือดขาวลง ถ้าไม่ดีจะเจาะไขกระดูกสันหลังมารักษา และพูดถึงเรื่องยาเคมีบำบัดจะเป็นวิธีสุดท้าย

หมอจึงคิดว่าคุณแม่คุณอาจเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังที่เรียกว่าโครนิคมัยอีลอยด์ลิวคีเมีย ( chronic myeloid leukemia หรือเรียกย่อๆว่า ซีเอ็มแอล: CML) ซึ่งการรักษาปัจจุบัน มีการให้ยาที่ไม่ใช่เคมีบำบัด แต่เป็นยาที่รักษาตรงเป้าไปที่จุดที่ทำให้เกิดโรค ไปทำให้มะเร็งชนิดนี้สงบ หากการรักษาวิธีนี้ไม่ได้ผลคงรักษาด้วยวิธีการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด(เดิมเรียกการปลูกถ่ายไขกระดูก) ทั้งสองวิธีที่กล่าวมาให้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจในปัจจุบัน ส่วนยาเคมีบำบัดคงเป็นทางเลือกสุดท้ายค่ะ

ช่วงนี้คุณแม่คงมีความกังวล เครียด แต่ถ้าคุณหมอพูดถึงแนวทางการรักษาที่หมอจับประเด็นมาจากคำพูดที่คุณเขียนมา หมอคิดว่าความหวังในการรักษาโรคให้หายมีมากนะคะ ให้คุณแม่ทำใจให้สบายขึ้นและปฏิบัติตัวตามที่คุณหมอแนะนำนะคะ พยายามรับประทานอาหารให้มีกำลังและอาหารต้องสุกสะอาดเสมอระวังการติดเชื้อต่างๆ เพราะภูมิต้านทานในร่างกายเช่นหน้าที่ของเม็ดเลือดขาวจะลดลง เนื่องจากเม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ได้ดีลดลง

ผักต้องต้มให้สุก ผลไม้ล้างให้สะอาดแล้วปอกเปลือก หากล้างได้อีกครั้งหลังปอกเปลือกจะดี ระวังการติดเชื้อจากผู้อื่นจึงไม่ควรไปตามที่แออัด หากจำเป็นใ่ส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูก ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร

อีกอย่างที่หมออยากแนะนำ คือบางคนอาจจะใช้ยาสมุนไพรรักษาด้วย ซึ่งหากจะทำให้สบายใจหมอคงไม่ว่า แต่ขอให้ระลึกว่าสมุนไพรบางอย่างอาจทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องไตหรือตับ เพราะหมอเคยพบคนไข้ที่ใช้ยาแล้วมีปัญหาด้วยตนเองจึงต้องให้ระมัดระวังไว้ด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หมอพยายามใช้ข้อมูลที่คุณให้มาช่วยคิด แต่ไม่แน่ใจว่าการวินิจฉัยที่หมอคิดถึงนั้นใช่หรือไม่ค่ะ หากมีโอกาสได้ปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอที่รักษาโดยตรงคงได้ข้อมูลกระจ่างค่ะ

ขอให้กำลังใจคุณแม่และครอบครัวของคุณให้ต่อสู้โรคร้ายด้วยความเข้มแข็งนะคะ

ศาสตราจารย์แพทย์หญิงอรุณี เจตศรีสุภาพ