กระดานสุขภาพ

จ้ำเขียว
Siri*****e

1 มกราคม 2556 16:59:01 #1

สวัสดีค่ะ คุณหมอคือหนูมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ 

คือว่าหนูมีอาการแบบว่าเป็นจ้ำเขียวที่ขาค่ะ แบบว่าตื่นขึ้นมาก็เป็นค่ะ โดยที่ไม่ได้รับการกระแทกอะไร 2-3 วันแรกหนูก็ยังเฉยๆอยู่ค่ะ คิดว่าไม่เป็นหรอกหรอกมั้ง เดี๋ยวคงหายไปเอง จนวันที่ 4 ค่ะ หนูรู้สึกว่ารอยช้ำนั้นมันขยายไปเรื่อยๆ พร้อมกับการที่หนูเป็นไข้ หนูเลยไปพบแพทย์ค่ะ แพทย์ก็เจาะเลือดหนูไปตรวจค่ะ ระหว่างรอผลหมอก็ถามประวัติหนู คือว่าตอนเด็กๆหนูเลือดกำเดาไหลบ่อยค่ะ พอโตขึ้นมาหน่อยก็มีเลือดออกตามไรฟัน เป็นจ้ำเขียว (2-3 วันก็หาย) มือเท้าเย็น ปวดศีรษะ หน้ามืดบ่อย สุดท้ายค่ะ แม่หนูเป็นโรคเลือดจางด้วย

แล้วผลตรวจเลือดก็ออกมาค่ะ หมอบอกว่าหนูเกล็ดเลือดต่ำ หนูมีเกล็ดเลือด 110,000 ค่ะ หมอให้ยาห้ามเลือดกับวิตามินซีมาค่ะ

คือหนูอยากถามคุณหมอว่า

ถ้าหนูทานยาหมดแล้วหนูต้องไปหาหมออีกมั้ยคะ

เกล็ดเลือดต่ำเกิดจากอะไรคะ 

อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.98 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา)

3 มกราคม 2556 08:33:26 #2

เกล็ดเลือดหนูต่ำเพียงเล็กน้อย หนูมีไข้ด้วยอาจมีการติดเชื้อไวรัสและมีผลทำให้เกล็ดเลือดต่ำ หรือเกล็ดเลือดต่ำนี้เป็นผลตามจากการที่หนูมีเลือดออกแล้วร่างกายต้องนำเกล็ดเลือดไปใช้ในกระบวนการห้ามเลือดจึงทำให้เกล็ดเลือดต่ำก็ได้ ไม่ทราบว่าอะไรเกิดก่อนกันระหว่างเรื่องไข้กับเรืองเกล็ดเลือดต่ำ ในพวกที่มีการติดเชื้อไวรัส เกล็ดเลือดจะต่ำในวันที่ 3-4 หลังจากมีไข้ และมักจะขึ้นในวันที่ 8-10 หลังจากมีไข้

โดยปกติเกล็ดเลือดมากกว่าแสนต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร มักไม่ทำให้เลือดออก และเลือดออกจากการมีเกล็ดเลือดต่ำมักจะเป็นจุดเลือดออก คล้ายจุดยุงกัด

แต่ของหนูเป็นจ้ำเลือดอาจมีปํญหาเรื่องการทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นโรคทางพันธุกรรม ฟังจากที่เล่าว่ามีปัญหาเลือดออกง่ายตอนเด็ก หรืออาจเป็นโรคที่เกิดภายหลังที่มีการทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติ (Acquired platelet dysfunction with eosinophilia- APDE) ซึ่งพบส่วนใหญ่ในเด็กเช่นกัน ฟังดูว่าช่วงหลังมาไม่มีเลือดออกใช่ไหมคะ นอกจากครั้งนี้ แต่อาการของหนูน้อยมาก

ไม่ทราบว่าคุณหมอนัดหนูเพื่อติดตามอาการว่ามีเลือดออกมากขึ้นหรือเปล่า คุณหมออาจวางแผนการว่าถ้าหนูไม่ดีขึ้นจะต้องตรวจอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ คงเป็นประเด็นนั้นมากกว่า เพราะยาที่ให้เป็นเพียงรักษาประคับประคอง เนื่องจาก APDE อาจใช้เวลาอยู่บ้างกว่าจะหาย ลองปรึกษาคุณหมอที่ท่านรักษาหนูอยู่ว่าท่านวินิจฉัยว่าหนูเป็นอะไร และมีแผนการอย่างไร เพราะการที่ท่านซักประวัติตามที่หนูเล่า ท่านคงพยายามหาสาเหตุเลือดออกของหนูค่ะ

ขออวยพรให้หนูมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ

 

ศ.พญ.อรุณี เจตศรีสุภาพ

Siri*****e

3 มกราคม 2556 15:35:41 #3

ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ อาการของหนูช่วงหลังๆมันเป็นจ้ำเขียวธรรมดาค่ะ เป็นประมาณอาทิตย์กว่าๆค่ะ