ถึง คุณ b40ed

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ b40ed ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ b40ed ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

ฝ่ายชายเป็นโรคธาลัสซีเมียฮีโมโกลบินเอ็ช หากแต่งงานกับหญิงปกติที่ไม่มีโรคหรือพาหะธาลัสซีเมีย บุตรจะได้รับความผิดปกติจากบิดาฝ่ายเดียวบุตรจะเป็นเพียงพาหะธาลัสซีเมียชนิดแอลฟ่า เนื่องจากพาหะแอลฟ่าธาลัสซีเมีย มีความยากในการวินิจฉัย ซึ่งต้องตรวจดีเอ็นเอจึงจะตรวจพบ โดยเฉพาะพาหะแอลฟ่าธาลัสซีเมียชนิดที่มีความผิดปกติน้อยการตรวจเลือดธรรมดา แยกไม่ได้จากคนปกติ (พาหะแอลฟ่าธาลัสซีเมียแบ่งได้เป็นชนิดที่มีความผิดปกติมากและผิดปกติน้อย) คุณเองมีความผิดปกติที่มีแอลฟ่าธาลัสซีเมียทั้ง 2 ชนิดร่วมกัน อย่างที่บอกคือหากฝ่ายหญิงตรวจเลือดว่าปกติแต่ไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอ อาจมีพาหะแอลฟ่าธาลัสซีเมียชนิดที่ผิดปกติน้อยก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงบุตรมีโอกาสเป็นโรคธาลัสซีเมียฮีโมโกลบินเอช เช่นเดียวกับคุณ

โรคธาลัสซีเมียชนิดนี้จัดเป็นโรคที่มีอาการปานกลาง ไม่ซีดมาก ตับม้ามไม่โตมาก เวลามีไข้ไม่สบายจะซีดมาก ต้องให้เลือด แต่ในเวลาสบายดีจะไม่ค่อยซีด และไม่ค่อยมีอาการมาก เรียนหนังสือและทำงานได้ปกติ โรคธาลีสซเมียฮีโมโกลบินเอช ไม่อยู่ในกลุ่มโรคที่ต้องควบคุมป้องกันเพราะอาการไม่รุนแรง แต่ต้องแน่ใจว่าฝ่ายหญิง ไม่ใช่เป็นพาหะแอลฟ่าธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง เนื่องจากลูกมีโอกาสเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงที่สุด เรียกว่าฮีโมโกลบินบาร์ทฮัยดรอปส์ฟีตัลลิส ซึ่งทารกไม่สามารถมีซีวิตอยู่ได้ และมารดาจะมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง จึงควรตรวจดีเอ็นของฝ่ายหญิงเพื่อความปลอดภัยก่อนคิดจะมีบุตร

ขออวยพรให้โชคดีค่ะ

ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ